Page 12 - การใช้ประโยชน์ของชุดตรวจดินภาคสนามสำหรับให้คำแนะนำปุ๋ยในการปลูกผักในพื้นที่โครงการหลวง
P. 12

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน





                                                                                                         2


                                                        วัตถุประสงค์

                          1.  เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในการก าหนดอัตราการใส่ปุ๋ยเคมีให้สอดคล้องกับคุณภาพดินและ
                   ความต้องการธาตุอาหารของพืชผัก
                          2.   เพื่อประเมินประสิทธิภาพของชุดตรวจดินภาคสนามของกรมพัฒนาที่ดินในการให้ค าแนะน า
                   การใส่ปุ๋ยเคมีส าหรับการปลูกพืชผักในพื้นที่โครงการหลวง
                          3.   เพื่อศึกษาผลตอบแทนทางเศรษฐกิจจากการใช้ชุดตรวจดินภาคสนามในการให้ค าแนะน า

                   การใส่ปุ๋ยเคมีส าหรับการปลูกพืชผักในพื้นที่โครงการหลวง



                                                      การตรวจเอกสาร

                          ผักกาดหวาน (Cos  Lettuce,  Romain  Lettuce)  มีชื่อวิทยาศาสตร์ Lactuce  sativa
                   var.longifolla เป็นพืชล้มลุก ล าต้นเป็นกอ ลักษณะใบยาวรีซ้อนกันเป็นช่อ ใบบางกรอบ เป็นพืชที่
                   ต้องการสภาพอากาศเย็น อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 10-24 องศาเซลเซียส ในสภาพอุณหภูมิสูง
                   การเจริญเติบโตทางใบจะลดลงและพืชจะสร้างสารคล้ายน้ านมหรือยางมาก เส้นใยสูง เหนียวและมีรส

                   ขม ดินที่เหมาะสมต่อการปลูกควรร่วนซุย มีความอุดมสมบูรณ์และอินทรียวัตถุสูง หน้าดินลึก และอุ้ม
                   น้ าได้ดีปานกลาง pH ของดินอยู่ระหว่าง 6-6.5 เป็นพืชที่นิยมบริโภคสด โดยเฉพาะในสลัดหรือกินกับ
                   ย าและน ามาตกแต่งในจานอาหาร ผักกาดหวานมีน้ าเป็นองค์ประกอบและมีวิตามินซีสูง นอกจากนี้
                   ยังให้ฮีโมโกลบิน (hemoglobin) ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง บรรเทาอาการท้องผูกเหมาะส าหรับผู้ป่วย

                   โรคเบาหวาน ซึ่งในการปลูกผักกาดหวานโดยทั่วไปตามค าแนะน าของมูลนิธิโครงการหลวงจะมีการใส่
                   ปุ๋ยจ านวน 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกหลังปลูก 7 วัน ใส่ปุ๋ย 46-0-0 อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่ และปุ๋ย 15-15-
                   15 อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่ และครั้งที่ 2 หลังปลูก 20-25 วัน ใส่ปุ๋ย 13-13-21 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อ
                   ไร่ (ส านักพัฒนาเกษตรที่สูง, 2546)  ในส่วนของกรมวิชาการเกษตรได้ให้ค าแนะน าในการใช้ปุ๋ยส าหรับ

                   พืชผักที่ปลูกเพื่อรับประทานต้นและใบโดยใช้วิธีการปลูกด้วยต้นกล้า  โดยจะท าการใส่ปุ๋ยครั้งแรกหลัง
                   ย้ายกล้า 7 วัน ใช้ปุ๋ย 46-0-0 18-46-0 และ 0-0-60 ส่วนการใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 ใช้ปุ๋ย 46-0-0 ทั้งนี้อัตรา
                   ปุ๋ยที่ใช้จะขึ้นอยู่กับค่าวิเคราะห์ดิน (กรมวิชาการเกษตร, 2548)

                          ชุดตรวจดินภาคสนามของกรมพัฒนาที่ดิน (LDD Test Kit) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้น
                   จากการศึกษาวิจัยโดยส านักวิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน โดยชุดตรวจสอบดิน
                   ภาคสนามเป็นชุดน้ ายาและอุปกรณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์สมบัติทางเคมีของตัวอย่างดิน 4 รายการหลัก
                   ได้แก่ ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) โปแตสเซียม (K) และค่าความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ของดิน ส าหรับ
                   การตรวจวัดปริมาณไนโตรเจน ใช้หลักการหยดน้ ายาชนิดต่าง ๆ แล้วสังเกตสีของสารละลายที่

                   เปลี่ยนแปลงไปเมื่อหยดน้ ายาตัวสุดท้าย ระดับการวิเคราะห์ของไนโตรเจนมี 4  ระดับ ได้แก่ ต่ ามาก ต่ า
                   ปานกลาง และสูง  การตรวจวัดปริมาณฟอสฟอรัส ใช้หลักการสกัดสารละลายตัวอย่างดิน แล้วหยดน้ ายา
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17