Page 47 - การจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่โครงการอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่เสี่ยงภัยต่อดินถล่ม บ้านนาหมัน หมู่ที่ 4 ตำบลแม่จริม อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน
P. 47
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
34
เห็นเสมอวําตามแนวสันเขานั้นจะมีความกว๎างอยูํขนาดหนึ่งซึ่งไมํคํอยมีการชะล๎างพังทลายของดิน
เกิดขึ้นมากนั้น ซึ่งความกว๎างของแตํละแนวสันเขานี้ขึ้นอยูํกับปัจจัยตําง ๆ หลายประการด๎วยกัน
เมื่อน้้าไหลบําหน๎าดินไหลลงสูํที่ต่้านั้น ปริมาณดินที่ถูกชะล๎างพังทลายจะ
เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งพลังการเคลื่อนย๎ายดินของน้้าไหลบําหน๎าดินหมดสมรรถนะ ไมํสามารถ
จะพัดพาเคลื่อนย๎ายมวลดินตะกอนลงต่้าไปได๎อีกแล๎ว กระบวนการตกตะกอนก็จะเกิดขึ้น ณ จุดนั้น
สํวนมากมักจะเป็นบริเวณใกล๎สองฝั่งล้าธาร ดังนั้น การที่จะลดอัตราและปริมาณการชะล๎างพังทลาย
ของดินบริเวณลาดเขาควรท้าเครื่องกีดขวางทางน้้าเป็นชํวง ๆ ตามลาดชันด๎วยระยะทางที่เหมาะสม
(3) รูปรํางของความลาดเท ความลาดเทของพื้นที่ผืนใดผืนหนึ่ง อาจมี
ลักษณะของแนวความลาดเทแบบตรงเรียบ หรือลาดนูนขึ้น และโค๎งลง หรือลาดเว๎าลง และงอขึ้นก็ได๎
บนความลาดเทที่โค๎งขึ้น (convex) นั้น ความลาดเทจะมีมากตอนใกล๎จุดต่้าสุดของแนวลาดเทซึ่งเป็น
บริเวณที่อัตราความเร็วของน้้าไหลบําหน๎าดินจะเพิ่มขึ้นได๎อยํางรวดเร็ว ผลที่ตามมาคือการชะล๎าง
พังทลายของดินจะมากกวําความลาดเทแบบอื่น ๆ และบนพื้นที่ที่มีความลาดเทแบบเว๎า (concave)
ความลาดเอียงจะลดน๎อยลงตอนบริเวณใกล๎จุดสิ้นสุดของความลาดเท ซึ่งมักท้าให๎เกิดการตกตะกอน
บริเวณดังกลําวนี้มากกวําที่จะเกิดการชะล๎างพังทลายตํอไป ทั้งนี้เพราะอัตราการไหลบําของน้้าหน๎า
ดินจะถูกท้าให๎ลดลงอยํางรวดเร็วนั่นเอง
3) ปัจจัยเกี่ยวกับดิน ดินแตํละชนิดจะถูกชะล๎างพังทลายได๎ยากงํายแตกตํางกันไป
ทั้งนี้ขึ้นอยูํกับสมบัติของดินเป็นส้าคัญ แม๎วําจะถูกชะและถูกเคลื่อนย๎ายด๎วยแรงปะทะของน้้าฝน และ
พลังเคลื่อนย๎ายของน้้าไหลบําหน๎าดินในอัตราและปริมาณเดียวกัน บนความลาดเทเทํากัน และมีพืช
พรรณที่คลุมผิวหน๎าดินหนาแนํนเทําเทียมกัน โดยมีปัจจัยที่เกี่ยวข๎องกับสมบัติของดินที่ส้าคัญ ดังนี้
(1) ความคงทนตํอการถูกกัดเซาะและเคลื่อนย๎าย ในกระบวนการชะล๎าง
พังทลายของดิน มี 3 ขั้นตอน คือ การกัดชะ การเคลื่อนย๎าย และการตกทับถม
(2) อัตราการซึมของดิน ความสามารถในการเปียกน้้าของดิน และ
สมรรถนะการอุ๎มน้้าสูงสุดของดิน การเคลื่อนย๎ายของน้้าจากผิวดินลงสูํชั้นดินที่ลึกลงไป ไมํวําจะผําน
ลงไปในรูดินตามธรรมชาติ รอยแยกของดิน รูที่จะเกิดจากการผุพังของรากไม๎ หรือรูที่สัตว๑ขุดขึ้น ล๎วน
เรียกวํา การซึมผํานผิวดิน (infiltration) น้้าฝนที่ตกลงสูํผิวดิน สํวนหนึ่งจะซึมผํานผิวดินลงสูํชั้นที่ลึก
ลงไป ดังนั้น น้้าไหลบําหน๎าดินจะเกิดขึ้นได๎ก็ตํอเมื่อดินเปียกเต็มที่ และยอมให๎น้้าซึมผํานผิวดินเริ่ม
คงที่ อัตราการซึมผํานผิวดินของน้้า (infiltration rate) มีความแตกตํางกันไปตามคุณสมบัติทาง
กายภาพของดิน ได๎แกํ ปริมาณและขนาดของชํองวํางในดิน ถ๎าหากมีอนุภาคของดินที่ละเอียดจับตัว
คลุกเคล๎ากันเป็นกลุํมก๎อน มักมีความสามารถดูดซับน้้าได๎ดีพอสมควร ดินชนิดนี้จะมีความสามารถ
ต๎านทานตํอการชะล๎างพังทลายได๎สูง
(3) ความลึกของดินชั้นบน ดินที่บริเวณผิวหน๎าดินถูกกัดชะไปนั้นมักจะงําย
ตํอการถูกชะล๎างพัดพา ทั้งนี้เพราะหน๎าดินซึ่งเคยเป็นเนื้อดินรํวนซุย โครงสร๎างดี และอินทรียวัตถุสูง