Page 18 - การจัดการปุ๋ยหมักและปุ๋ยชีวภาพร่วมกับน้ำหมักชีวภาพ เพื่อเพิ่มผลผลิตมะละกอฮอลแลนด์ในดินทราย
P. 18
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
9
4. มะละกอและการจัดการดินเพื่อเพิ่มผลผลิต
4.1 ลักษณะทางพฤกษศาสตร์มะละกอฮอลแลนด์
มะละกอมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Carica papaya L. มีล าต้นใหญ่สีเขียว ใบมี 11 แฉกใหญ่
กลางใบมีกระโดงใบ 1 ใบ ก้านใบมีสีเขียวตั้งขึ้น ดอกออกเป็นช่อ ติดผลดก รูปทรงกระบอกคล้าย
ลูกฟักอ่อน เนื้อสีแดงอมส้ม ไม่เละ เนื้อหนา 2.5 - 3.0 เซนติเมตร ความหวานวัดได้ 11 - 13
องศาบริกซ์ ผลผลิตต่อต้น 60 - 80 กิโลกรัม น้ าหนักผลอยู่ที่ประมาณ 0.8 - 1.2 กิโลกรัมต่อผล
จุดเด่นที่มองออกง่ายมากของผลมะละกอฮอลแลนด์เป็นลักษณะที่ปลายผลจะป้านคล้ายผลฟักอ่อน
ไม่มีกลิ่นยาง เนื้อหนา รสหวาน เปลือกหนา ทนทานต่อโรค ทนทานต่อการขนส่งให้ผลดก เนื้อ
แน่นแข็ง น้ าหนักดี รสชาติหวาน ทนทานต่อโรค มะละกอพันธุ์นี้มีอายุเก็บเกี่ยว 8 เดือน
มะละกอพันธุ์ฮอลแลนด์นี้สามารถปลูกได้เกือบทุกสภาพพื้นที่ ยกเว้นพื้นที่น้ าขัง ดินที่เหมาะสมมี
ความเป็นกรดเป็นด่าง 5.0 - 5.5 ระยะปลูก 2.5 x 3 เมตร หากปลูกแล้วให้น้ าสม่ าเสมอ มะละกอ
จะให้ผลผลิตที่ดีมาก เริ่มต้นจากใส่ที่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอกรองพื้น เพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิต
โดยใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 15 – 15 - 15 ระยะที่ติดผลอ่อน ก่อนการเก็บเกี่ยวใส่ สูตร 13 – 13 - 21 ใส่
รอบๆ ต้น จ านวน 1 ช้อนโต๊ะต่อต้น เมื่อปลูกได้ 7 - 8 เดือน มะละกอฮอลแลนด์จะสุกแก่ เริ่ม
เก็บได้ ปริมาณผลผลิต หากดูแลปานกลางจะได้ผลผลิตราว 5 - 8 ตันต่อไร่ (กรมวิชาการเกษตร,
2548) มะละกอเป็นไม้ผลเมืองร้อนที่ปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย บริโภคได้ทั้งผลดิบและผลสุก
จึงจัดเป็นกลุ่มพืชผักและไม้ผลที่อุดมไปด้วยวิตามินโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินเอ ซี และอี
นอกจากนี้ยังประกอบด้วยฟลาโวนอยด์ แร่ธาตุ เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก เป็นต้น
และเส้นใย ผลที่ไม่สุกเต็มที่ คือ อุดมไปด้วยแหล่งของปาเปนซึ่งเป็นเอนไซม์โปรตีนเอสที่มีคุณค่าใน
การท าให้เนื้อนุ่มและยาแก้โรคระบบทางเดินอาหารบางชนิด ผลที่ยังไม่สุกใช้เป็นผัก ซึ่งหากต้องการ
ผลผลิตที่ดีและคุณภาพของผลไม้จะมีผลต่อความสมดุลโภชนาการของมะละกอด้วย (Oliveira and
Caldas, 2004)
4.2 การจัดการดินปลูกมะละกอ
ส าหรับการจัดดินในการปลูกพืชเศรษฐกิจพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนใหญ่มีการ
จัดการดินในพื้นที่เกษตรกรรมจากการใช้ปุ๋ยหมักร่วมกับการใส่ปุ๋ยเคมีเนื่องมาจากดินค่อนข้างเป็น
ทราย หรือดินทรายปนร่วน มีความอุดมสมบูรณ์ต่ า โดยการปรับปรุงดินจากการใช้ปุ๋ยหมักร่วมกับ
การใส่ปุ๋ยเคมี (กรมวิชาการเกษตร, 2548) มะละกอเป็นไม้ผลที่มีความต้องการธาตุอาหารในการ
เจริญเติบโตโดยเฉพาะไนโตรเจน และโพแทสเซียมที่ค่อนข้างสูงจะให้ผลผลิตมะละกอที่มีคุณภาพ
หากได้รับปริมาณธาตุอาหารอย่างครบถ้วนทั้งธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม
จะส่งเสริมการเจริญเติบโต ผลผลิตและคุณภาพของผลได้เป็นอย่างดี จากการศึกษาของ Zang and
Rong (2002) พบว่า ผลผลิตมะละกอ 15 ตันต่อไร่ ต้องการไนโตรเจน 38.46 กิโลกรัมต่อไร่