Page 132 - การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อการสำรวจทรัพยากรดินในพื้นที่สูงบริเวณลุ่มน้ำสาขา น้ำแม่ต้า (ลุ่มน้ำยม)
P. 132
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
108
และเมื่อเกิดการย่อยสลายอินทรียสารเหล่านี้จะปลดปล่อยโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์บางส่วนให้แก่ดิน ทําให้
มีโพแทสเซียมตกค้างในดินปริมาณสูง (Brady and Weil, 2008) รวมถึงเป็นอิทธิพลมาจากการใช้ปุ๋ย
โพแทสเซียมในปริมาณสูงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะบริเวณที่ทําการเกษตร
3.1.7 ความเป็นกรดที่สกัดได้
ความเป็นกรดที่สกัดได้ของดินที่ทําการศึกษาทั้ง 13 พีดอน ภาพที่ 41 (ก) พบว่า มีค่าอยู่ใน
ระดับต่ําถึงสูง (1.46 - 12.52 เซนติโมลต่อกิโลกรัม) โดยในชั้นดินบนและดินล่างมีค่าอยู่ในพิสัย 2.99 - 12.35
เซนติโมลต่อกิโลกรัม และ 1.46 - 12.52 เซนติโมลต่อกิโลกรัม ตามลําดับ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่มีค่าความเป็นกรดที่สกัดได้อยู่ในระดับต่ําถึงค่อนข้างสูง มีค่าอยู่ในพิสัย 1.46 - 9.05 เซนติโมลต่อกิโลกรัม
ได้แก่ Skt, Don-gm,ant, Pae, AC-wd,col, Ws-vd, Ws-br, Ws, Ty, Bar และ Tl-lsk-2 ส่วนอีกกลุ่มนั้นมีค่า
ความเป็นกรดที่สกัดได้อยู่ในระดับสูง มีค่าอยู่ในพิสัย 10.09 - 12.52 เซนติโมลต่อกิโลกรัม ได้แก่ Ml-lsk, Tl-lsk-1
และ Cg-low,f ซึ่งส่วนใหญ่ชั้นดินบนมีค่าสูงกว่าชั้นดินล่าง และมีแนวโน้มลดลงตามความลึก ซึ่งมีความสัมพันธ์
กับผลการศึกษาค่าปฏิกิริยาดินที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามความลึก นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มความสัมพันธ์
ในทางเดียวกับปริมาณอินทรียวัตถุของดิน เนื่องจากอินทรียวัตถุมีค่าสูงในชั้นดินบนสามารถดูดซับไฮโดรเจนไอออน
ได้มาก (วิทยา, 2551; Foth, 1984; Tan, 1993) หรืออาจเกิดจากกระบวนการสลายตัวของอินทรียวัตถุที่จะมี
การแตกตัวของอนุมูลกรด และปลดปล่อยไฮโดรเจนไอออนให้แก่ดิน (Brady and Weil, 2008) ทําให้ชั้นดินบน
มีความเป็นกรดที่สกัดได้สูงกว่าชั้นดินล่าง และมีค่าลดลงตามความลึก
-1
-1
(ก) Exchangeable acidity (cmol kg ) (ข) CEC by NH OAc (cmol kg ) (ค) Base saturation (%)
4
0 5 10 15 0 10 20 30 0 50 100
0 0 0
25 25 25
50 50 50
75 75 75
Depth (cm) 100 100 100
125 125 125
150 150 150
175 175 175
200 200 200
ภาพที่ 41 ความสัมพันธ์ระหว่างความเป็นกรดที่สกัดได้ (ก) ความจุแลกเปลี่ยนแคตไอออน (ข) และอัตรา
ร้อยละความอิ่มตัวเบส (ค) กับความลึกของดิน