Page 130 - การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อการสำรวจทรัพยากรดินในพื้นที่สูงบริเวณลุ่มน้ำสาขา น้ำแม่ต้า (ลุ่มน้ำยม)

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

106

3.1.4 ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน

ผลการวิเคราะห์ปริมาณอินทรียวัตถุของดินทั้ง 13 พีดอน พบว่า มีค่าอยู่ในระดับต่ํามาก
ถึงสูงมาก อยู่ในพิสัย 1.1 - 54.5 กรัมต่อกิโลกรัม โดยใน Ws-br, Ws, Ty, Ml-lsk และ Bar ชั้นดินบนมีค่าอยู่ใน
ระดับค่อนข้างสูงถึงสูงมาก (27.2 - 54.5 กรัมต่อกิโลกรัม) และในชั้นดินล่างมีค่าอยู่ในระดับต่ํามากถึงปานกลาง
(5.6-18.8 กรัมต่อกิโลกรัม) ส่วนใน Skt, Don-gm,ant, Pae, AC-wd,col, Ws-vd, Tl-lsk-1, Tl-lsk-2 และ

Cg-low,f ในชั้นดินบนมีค่าอยู่ในระดับต่ําถึงปานกลาง (5.4 - 18.5 กรัมต่อกิโลกรัม) และในชั้นดินล่างมีค่า
อยู่ในระดับต่ํามากถึงสูง (1.1 - 39.9 กรัมต่อกิโลกรัม) ซึ่งการสะสมปริมาณอินทรียวัตถุของดินทั้ง 13 พีดอน
ส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดลงตามความลึก (ภาพที่ 39) การที่มีปริมาณอินทรียวัตถุในชั้นดินบนสูงกว่าชั้นดินล่าง

ของทุกดิน เป็นผลมาจากการผุพังสลายตัวของเศษซากอินทรีย์ที่สะสมอยู่ในดินตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในดิน
ที่พัฒนาในสภาพป่าไม้ (วิทยา, 2551; Thompson and Troeh, 1978) และชิ้นส่วนที่สลายตัวหลงเหลือจาก
การเกษตรกรรม ตลอดจนรากพืชที่ขึ้นปกคลุมอยู่บนผิวดิน เมื่อสลายตัวจึงทําให้มีการสะสมอินทรียวัตถุในดินบน
ส่วนในชั้นดินล่างโอกาสที่อินทรียสารต่างๆ จะลงไปสะสมอยู่มีน้อย ประกอบกับอยู่ในเขตร้อนการย่อยสลาย

อินทรียสารในชั้นดินบนจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว การชะละลายลงไปสะสมในดินเกิดขึ้นได้น้อย จึงทําให้ปริมาณ
อินทรียวัตถุในชั้นดินล่างต่ํา (ชัยฤกษ์, 2536; บรรณพิชญ์, 2551; Virgo and Holmes, 1977; Baize, 1993;
Brady and Weil, 2008) โดยความแตกต่างของอินทรียวัตถุในดินบนของแต่ละบริเวณ คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับ
การจัดการในการใช้ประโยชน์ที่ดิน พืชพรรณธรรมชาติ และสัณฐานภูมิประเทศ (วิทยา, 2551; Vijarnsorn, 1984)

Organic Matter (g kg )
-1
0 10 20 30 40 50 60 Skt
0
Don-gm,ant

25 Pae
AC-wd,col
50 Ws-vd

Ws-br
75 Ws
Depth (cm) 100 Ty

125 Ml-lsk
Bar
150 Tl-lsk-1
Tl-lsk-2
175 Cg-low,f

200

ภาพที่ 39 ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณอินทรียวัตถุในดินกับความลึกของดิน

3.1.5 ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์

ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินที่ทําการศึกษาทั้ง 13 พีดอน พบว่า มีค่าอยู่ในระดับ

ต่ํามากถึงสูง โดยอยู่ในพิสัย 0.1 - 40.6 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งในชั้นดินบนมีค่าอยู่ในระดับต่ํามากถึงสูง
(0.1 - 40.6 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) ส่วนในดินชั้นล่างมีค่าอยู่ในระดับต่ํามากถึงค่อนข้างสูง (0.1 - 17.3
มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) โดย AC-wd,col มีปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์สูงที่สุดทั้งในชั้นดินบน และชั้นดินล่าง