Page 131 - การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อการสำรวจทรัพยากรดินในพื้นที่สูงบริเวณลุ่มน้ำสาขา น้ำแม่ต้า (ลุ่มน้ำยม)
P. 131
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
107
และปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินทุกพีดอนมีแนวโน้มลดลงตามความลึก ภาพที่ 40 (ก) ทั้งนี้เนื่องจาก
ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์มีความสัมพันธ์กับปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรูป
ฟอสเฟตอินทรีย์ (Tisdal and Nelson, 1975; Sanchez, 1976) จึงทําให้ชั้นดินบนมีปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็น
ประโยชน์สูงกว่าในชั้นดินล่าง อีกทั้งการที่มีปริมาณดินเหนียวเพิ่มขึ้นในชั้นดินล่างจะทําให้ความเป็นประโยชน์
ของฟอสฟอรัสลดลง (Brady and Weil, 2008) เนื่องจากกลุ่มไฮดรอกซิลในแผ่นอะลูมินาของแร่ดินเหนียว
ชนิดเคโอลิไนต์สามารถแลกเปลี่ยนกับฟอสฟอรัสได้ (Halvin et al., 2005) นอกจากนี้การที่ดินมีปริมาณ
ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์มีค่าอยู่ในระดับต่ํานั้น เป็นลักษณะทั่วไปของดินที่มีพัฒนาการดี (วรพันธ์, 2531;
Sanchez et al., 1983) และดินผ่านการชะละลายมานาน ทําให้มีปฏิกิริยาดินต่ํา ส่งผลให้ฟอสเฟตถูกตรึงโดย
3+
ไอออนบวกที่ละลายได้ พวก Fe , Al ไฮดรัสออกไซด์ของเหล็ก อะลูมินัม และแมงกานีส เกิดเป็น
2+
สารประกอบที่ละลายน้ํายากของสารประกอบเหล็กฟอสเฟตและสารประกอบอะลูมินัมฟอสเฟต จึงส่งผลให้
ความเป็นประโยชน์ของฟอสฟอรัสในดินลดต่ําลง (ชัยฤกษ์, 2536)
(ก) (ข)
-1
-1
Avail. P (mg kg ) Avail. K (mg kg )
0 10 20 30 40 50 0 100 200 300 400 500 Skt
0 0
Don-gm,ant
25 25 Pae
AC-wd,col
50 50 Ws-vd
Ws-br
75 75 Ws
Depth (cm) 100 100 Ty
125 125 Ml-lsk
Bar
150 150 Tl-lsk-1
Tl-lsk-2
175 175
Cg-low,f
200 200
ภาพที่ 40 ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (ก) ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ (ข)
กับความลึกของดิน
3.1.6 ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์
ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินที่ทําการศึกษาทั้ง 13 พีดอน พบว่า มีค่าอยู่ในระดับ
ต่ําถึงสูงมาก ภาพที่ 40 (ข) โดยอยู่ในพิสัย 32 - 455 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งในชั้นดินบนและชั้นดินล่างมีค่า
อยู่ในพิสัย 44 - 455 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และ 32 - 305 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามลําดับ โดยในชั้นดินบนของ
Pae, AC-wd,col, Ws-br, Ws, Ty, Ml-lsk และ Bar มีปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์อยู่ในระดับสูงมาก
(145 - 455 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) คาดว่าเป็นผลตกค้างจากการจัดการดินและปุ๋ยในการปลูกพืช เมื่อพิจารณา
ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์กับความลึกของดิน พบว่า ส่วนใหญ่ชั้นดินบนมีค่า
สูงกว่าชั้นดินล่าง และมีแนวโน้มลดลงตามความลึก ทั้งนี้เป็นผลมาจากอิทธิพลของอินทรียวัตถุในดิน โดยใน
ชั้นดินบนมีปริมาณอินทรียวัตถุสูง ซึ่งอินทรียวัตถุเป็นวัสดุที่มีความสามารถในการดูดซับแคตไอออนได้สูง