Page 66 - คู่มือการวิเคราะห์ดินทางเคมีเพื่อประเมินความอุดมสมบูรณ์ของดิน
P. 66
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
58
เหนียวหรือฮิวมัส กลายเป็นโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ ซึ่งยังเป็นประโยชน์ต่อพืชและบางส่วนจะถูก
ตรึงอยู่ในซอก หลืบของแร่ดินเหนียวบางชนิด เช่น อิลไลต์และเวอร์มิวไลต์ ซึ่งพืชใช้ประโยชน์ไม่ได้
เป็นเหตุให้ความเข้มข้นของโพแทสเซียมไอออนในสารละลายดินที่สูงมากหลังการใส่ปุ๋ยเคมีจะค่อยๆ
ลดลง แต่โดยรวมการใส่ปุ๋ยเคมีจะท าให้ความเป็นประโยชน์ของโพแทสเซียมในดินสูงขึ้น (ยงยุทธ,
2558)
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตรึงโพแทสเซียมในดิน (คณาจารย์ภาควิชาปฐพีวิทยา, 2548)
(1) ชนิดของคอลลอยด์ต่างๆ ดินที่มีแร่ดินเหนียวชนิด 1:1 type clay จะตรึงโพแทสเซียมได้
น้อยกว่าดินที่มีแร่ดินเหนียวชนิด 2:1 type clay
(2) การใช้ปูน ท าให้ปริมาณโพแทสเซียมถูกชะละลายน้อยลง ทั้งนี้เพราะแคลเซียมจากปูนจะ
+
ไปลดความเป็นกรดของดิน ดินจะอิ่มตัวด้วยแคลเซียม ซึ่งโพแทสเซียมไอออน (K ) สามารถไล่ที่
2+
แคลเซียมไอออน (Ca ) ได้ง่ายกว่าไฮโดรเจนไอออน (H ) หรืออะลูมินัมไอออน (Al ) และตัวมันเอง
+
3+
ถูกดูดซับอยู่ที่อนุภาคดิน จึงท าให้ปริมาณโพแทสเซียมที่ถูกชะละลายโดยน้ าก็น้อยลง ทั้งนี้การใส่ปูน
มากเกินไปจะท าให้เกิดการขาดโพแทสเซียมในดินได้
(3) อุณหภูมิ เมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นระดับของโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ (exchangeable
K) จะสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าอุณหภูมิมีผลต่อการปลดปล่อยและการตรึงโพแทสเซียม
(4) การเปียกและแห้งของดิน การท าให้ดินเปียกและแห้งสลับกัน (alternate wetting and
drying) จะช่วยเร่งให้มีการปลดปล่อยหรือตรึงโพแทสเซียมมากขึ้นกว่าการท าให้ดินแห้งเพียงครั้ง
เดียว ความเป็นประโยชน์ของโพแทสเซียมต่อพืชจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าขณะท าให้ดินแห้ง
เปลี่ยนเป็นดินเปียกดินนั้นมีการตรึงหรือปลดปล่อยโพแทสเซียม ถ้าดินอยู่ในสภาพที่ปลดปล่อย
โพแทสเซียม การท าให้ดินเปียกเปลี่ยนเป็นดินแห้งจะท าให้การปลดปล่อยโพแทสเซียมเกิดมากขึ้น
การประเมินระดับโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินโดยการวิเคราะห์ดินทางเคมีนั้น อาศัย
หลักการที่ว่า โพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ต่อพืชส่วนใหญ่ คือ โพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้
(exchangeable K) การวิเคราะห์จึงเน้นหนักไปในการสกัดโดยอาศัยปฏิกิริยาแลกเปลี่ยนประจุ
(cation exchange) ระหว่างประจุบวกในน้ ายาสกัด ซึ่งท าหน้าที่เป็น replacing cation กับ
adsorbed K ที่พื้นผิวของคอลลอยด์ดิน น้ ายาสกัดที่ใช้กันมีอยู่มากมายหลายชนิด เช่น NH4OAc
หรือ HCl ที่เจือจาง เป็นต้น การใช้กรดสกัดเป็นการสกัดอย่างรุนแรง อาจมีผลท าให้โพแทสเซียมส่วน
ที่เป็นประโยชน์กับพืชอย่างช้าๆ (slowly available K) ถูกปลดปล่อยออกมาด้วย ซึ่งส าหรับบางดิน
อาจให้ผลที่ได้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากขึ้น แต่ในบางดินอาจให้ผลมากกว่าความเป็นจริง ดังนั้น
ห้องปฏิบัติการส่วนใหญ่จึงนิยมสกัดด้วยสารละลาย NH4OAc pH 7.0
-1
ในตารางผลการวิเคราะห์ดินจะรายงานเป็นหน่วยมิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (mg kg ) หมายความ
ว่าในดินหนึ่งกิโลกรัมจะมีปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ต่อพืชอยู่กี่มิลลิกรัม ค่านี้จะท าให้ทราบ
ว่าปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ที่อยู่ในสารละลายดินมีอยู่มากน้อยเพียงใด จะเป็นประโยชน์
ในการพิจารณาใช้ปุ๋ยเพื่อปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน เพราะโพแทสเซียมเป็นธาตุอาหารหลักที่
พืชต้องการใช้ในปริมาณมาก ดังกล่าวมาแล้วในข้างต้น การแบ่งระดับความสูงต่ าของปริมาณ
ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ แสดงในตำรำงที่ 6