Page 21 - ผลการใช้สารเร่งซุปเปอร์ พด.3 ควบคุมโรคโคนเน่าที่เกิดจากเชื้อรา Sclerotium rolfsii ของกุยช่าย ในพื้นที่จังหวัดลำปาง
P. 21
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
11
การใช้สารเคมีก าจัดโรคพืช เป็นวิธีที่สามารถควบคุมระดับความรุนแรงของโรคได้ดีกว่าต ารับการทดลองอื่นๆ
แต่เนื่องจากต ารับการทดลองที่ 2 เป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตจากการใช้สารเคมี มีผลท าให้เกิดการปนเปื้อน
และตกค้างของสารเคมีในผลผลิต นอกจากนี้ยังส่งผลต่อสุขภาพของเกษตรกรผู้ใช้ ผู้บริโภคและตกค้างใน
สิ่งแวดล้อมด้วย ดังนั้นการใช้สารเร่งซุปเปอร์ พด.3 จึงเป็นวิธีการที่น่าสนใจแก่เกษตรกรผู้ปลูกกุยช่าย
เนื่องจากสารเร่งซุปเปอร์ พด.3 มีเชื้อรา Trichoderma และ แบคทีเรีย Bacillus subtilis เป็นส่วนประกอบ
สามารถท าลายและยับยั้งการเจริญของเชื้อสาเหตุของโรคพืช ลด และควบคุมปริมาณเชื้อสาเหตุโรคพืชในดิน
ท าให้ดินมีธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อพืชเพิ่มขึ้น ส่งผลให้รากพืชแข็งแรง และเจริญเติบโตได้ดี (กรมพัฒนา
ที่ดิน, 2551) และยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่หาง่าย ไม่เสียค่าใช้จ่ายซึ่งจะเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร
(ตารางภาคผนวกที่ 3) ทั้งยังเป็นทางเลือกให้แก่เกษตรกรที่สนใจปลูกพืชในระบบเกษตรอินทรีย์อีกด้วย
ตารางที่ 2 เปอร์เซ็นต์การเข้าท าลายและยับยั้งโรคโคนเน่าที่เกิดจากเชื้อรา Sclerotium rolfsii
การเข้าท าลายของโรค การยับยั้งของโรค
ต ารับการทดลอง
(%) (%)
c
T1: แปลงควบคุม 27.50 -
bc
T2: ใช้ปุ๋ยและสารเคมีตามวิธีการของเกษตรกร 36.88 63.12
ab
T3: ใช้ปุ๋ยหมักที่ขยายเชื้อสารเร่งซุปเปอร์ พด.3 43.74 56.26
อัตรา 6.25 กรัมต่อตารางเมตร
ab
T4: ใช้เชื้อสด Trichoderma อัตรา 50 กรัมต่อ 45.82 54.18
ตารางเมตร
ab
T5: ใช้ชีวภัณฑ์เชื้อรา Trichoderma อัตรา 50 46.24 53.76
กรัมต่อตารางเมตร
a
T6: ใช้ชีวภัณฑ์แบคทีเรีย Bacillus subtilis 48.32 51.68
อัตรา 0.67 กรัมต่อตารางเมตร
F-test * -
%CV 16.82 -
หมายเหตุ : * หมายถึง มีความแตกต่างกันทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยวิธี DMRT
ตัวอักษรที่ต่างกันในคอลัมน์เดียวกันมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ