Page 35 - การใช้ประโยชน์ของชุดตรวจดินภาคสนามสำหรับการจัดการปุ๋ยเพื่อการปลูกพืชผักในจังหวัดลำพูน

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
22

1.2 ผักคะน้า พ.ศ. 2558
1) ดินก่อนการทดลอง
จากการเก็บตัวอย่างดินก่อนการทดลองปลูกผักคะน้า โดยวิเคราะห์สมบัติทางเคมีใน
ห้องปฏิบัติการ ได้แก่ ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็น

ประโยชน์ และปริมาณโพแทสเซียมที่สามารถแลกเปลี่ยนได้ พบว่า ดินในต ารับการทดลองที่ 1-5 มีค่า
ความเป็นกรดเป็นด่าง อยู่ในช่วง 6.4-6.9 ซึ่งอยู่ในระดับกรดเล็กน้อย-กลาง ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน
อยู่ในช่วง 2.1-2.4 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในระดับปานกลาง ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ได้ อยู่ในช่วง
87-100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม อยู่ในระดับสูงมาก และปริมาณโพแทสเซียมที่สามารถแลกเปลี่ยนได้

อยู่ในช่วง 216-388 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม อยู่ในระดับสูงมาก ส าหรับต ารับการทดลองที่ 6 ซึ่ง
วิเคราะห์ดินด้วยชุดตรวจดินภาพสนาม กรมพัฒนาที่ดิน พบว่า ความเป็นกรดเป็นด่าง มีค่า 6.5 ซึ่งจัด
อยู่ในระดับกรดเล็กน้อย ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน เท่ากับ 2.4 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในระดับปานกลาง
ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ต่อพืช มีมากกว่า 45 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม อยู่ในระดับสูงมาก และ

ปริมาณโพแทสเซียมที่สามารถแลกเปลี่ยนได้ อยู่ในช่วง 90-100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม อยู่ในระดับ
ปานกลาง ดังตารางที่ 6

ตารางที่ 6 ผลวิเคราะห์สมบัติบางประการของดินก่อนปลูกแปลงผักคะน้า พ.ศ. 2558

ต ารับ N-P O -K O pH Organic Matter Available P Exchangeable K
2 5 2
ที่ (kg/rai) (%) (mg/kg) (mg/kg)
1 0 - 0 - 0 6.5 2.4 100 216

2 12.5 - 3.5 - 3.5 6.5 2.2 88 388
3 15 - 5 - 5 6.4 2.3 91 283

4 22.9 - 0 - 0 6.9 2.2 92 300

5 15.4 - 0 - 0 6.5 2.1 87 288
6 15 - 5 - 10 6.5 2.4 >45 60-100

หมายเหตุ : ต ารับการทดลองที่ 2 ใส่ปุ๋ย 25-7-7 = 50 กิโลกรัมต่อไร่
ต ารับการทดลองที่ 3 ใส่ปุ๋ย 46-0-0 = 32.61 กิโลกรัมต่อไร่
0-46-0 = 10.87 กิโลกรัมต่อไร่
0-0-60 = 8.33 กิโลกรัมต่อไร่

ต ารับการทดลองที่ 4 ใส่ปุ๋ย 46-0-0 = 49.78 กิโลกรัมต่อไร่
ต ารับการทดลองที่ 5 ใส่ปุ๋ย 46-0-0 = 43.48 กิโลกรัมต่อไร่
ต ารับการทดลองที่ 6 ใส่ปุ๋ย 46-0-0 = 32.61 กิโลกรัมต่อไร่

0-46-0 = 10.87 กิโลกรัมต่อไร่
0-0-60 = 16.67 กิโลกรัมต่อไร