Page 31 - การใช้ประโยชน์ของชุดตรวจดินภาคสนามสำหรับการจัดการปุ๋ยเพื่อการปลูกพืชผักในจังหวัดลำพูน
P. 31
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
18
2) ดินหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต
ด้านดินหลังเก็บเกี่ยวผลผลิตผักคะน้า พบว่า ค่าความเป็นกรดเป็นด่างมีค่าเพิ่มขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบดินก่อนการทดลองในต ารับการทดลองที่ 1-5 อยู่ในช่วง 5.9-6.5 ซึ่งจัดอยู่ในระดับ
กรดจัดปานกลาง-กรดเล็กน้อย ส่วนปริมาณอินทรียวัตถุในดินมีค่าลดลงจากก่อนการทดลองทุกต ารับ
การทดลอง โดยมีค่าอยู่ในช่วง 2.0–2.2 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินหลังเก็บ
เกี่ยวผลผลิตเปลี่ยนแปลงลดลงในต ารับการทดลองที่ 1, 4 และ5 คือมีค่า 41, 70 และ 70 มิลลิกรัม
ต่อกิโลกรัม ตามล าดับ แต่ในต ารับการทดลอง ที่ 2 และ 3 มีค่าเพิ่มขึ้น โดยมีค่า 102 และ 142
มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามล าดับ ปริมาณโพแทสเซียมที่สามารถแลกเปลี่ยนได้หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตมี
ค่าลดลงในต ารับการทดลองที่ 1, 4 และ 5 คือมีค่า 114, 174 และ 181 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
ตามล าดับ แต่ในต ารับการทดลองที่ 2 และ 3 มีค่าเพิ่มขึ้น โดยมีค่า 214 และ 167 มิลลิกรัมต่อ
กิโลกรัม ตามล าดับ ส าหรับต ารับการทดลองที่ 6 วิเคราะห์ดินด้วยชุดตรวจดินภาพสนาม กรมพัฒนา
ที่ดิน พบว่า ความเป็นกรดเป็นด่าง มีค่า 6.5 ซึ่งจัดอยู่ กรดเล็กน้อย ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน เท่ากับ
2.0 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในระดับปานกลาง ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ต่อพืช มีมากกว่า 45
มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม อยู่ในระดับสูงมาก และปริมาณโพแทสเซียมที่สามารถแลกเปลี่ยนได้ มี
มากกว่า 120 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม อยู่ในระดับสูงมาก ดังตารางที่ 4
ตารางที่ 4 ผลวิเคราะห์สมบัติบางประการของดินหลังเก็บเกี่ยวผลผลิตแปลงผักคะน้า พ.ศ. 2557
ต ารับ N-P O -K O pH Organic Matter Available P Exchangeable K
2 5 2
ที่ (kg/rai) (%) (mg/kg) (mg/kg)
1 0 - 0 - 0 6.0 2.2 41 114
2 12.5 - 3.5 - 3.5 5.9 2.2 102 214
3 15 - 5 - 5 6.3 2.1 142 167
4 10.1 - 0 - 0 6.3 2.1 70 174
5 13.2 - 0 - 0 6.4 2.0 70 181
6 15 - 5 - 5 6.5 2.0 >45 >120