Page 21 - การไถกลบพืชปุ๋ยสดและตอซังข้าวร่วมกับการใช้น้ำหมักชีวภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตในพื้นที่ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน ตำบลโนนกลาง อำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี
P. 21
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
12
สาเหตุที่ข้าวเสียหาย ส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการขาดแคลนน้ าในระยะที่ข้าวก าลังเจริญเติบโต ซึ่งเป็นเหตุท าให้
ความเข้มข้นของเกลือในดินสูงขึ้นจนถึงขั้นเป็นอันตรายต่อข้าว โดยปกติแล้วถ้ามีน้ าเพียงพอและสม่ าเสมอ
ตลอดฤดูเพาะปลูก ข้าวก็จะสามารถเจริญเติบโตได้ดี โดยเฉพาะข้าวพันธุ์ที่ทนเค็ม ดินเค็ม มีเนื้อที่
ประมาณ 8,034 ไร่ หรือร้อยละ 0.082 ของเนื้อที่ทั้งจังหวัด ได้แก่ กลุ่มชุดดินที่ 20
แนวทางในการแก้ไข ลดระดับความเค็มของดิน ด้วยน้ าจืดในพื้นที่ที่มีน้ าชลประทานและด้วย
น้ าฝน ป้องกันการแพร่กระจายของดินเค็ม ที่อยู่บนพื้นที่รับน้ า (recharge area) ด้วยการปลูกต้นไม้เป็น
ธรรมชาติบนพื้นที่รับน้ า จะช่วยลดปัญหาดินเค็มลงได้ การปรับปรุงดินเค็ม เพื่อการปลูกพืชและเพิ่ม
ผลผลิต ด้วยการใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 4–5 ตัน ต่อไร่ อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน และใช้วัสดุปรับปรุง
ดิน เช่น แกลบ ขี้เลื่อย ฟางข้าว ฯลฯ อีกทั้งการปลูกพืชปุ๋ยสดแล้วไถกลบลงดิน นอกจากนี้การใช้ ยิปซั่ม
คลุกเคล้ากับดินเพื่อช่วยสะเทินความเป็นด่าง
ดินที่มีโอกาสเกิดการชะล้างพังทลาย
ดินที่เกิดในพื้นที่ที่มีความลาดชันและมีการสูญเสียหน้าดิน มักเป็นดินเนื้อหยาบหรือดินตื้นและมีความ
ลาดชันมาก (มากกว่าร้อยละ 12) จึงควรอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งต้นน้ าล าธาร แต่ถ้าจ าเป็นต้องใช้ประโยชน์
แนวทางในการแก้ไข ควรได้มีการท าแนวป้องกันการชะล้างพังทลายโดยการปลูกหญ้าแฝกขวางความ
ลาดเทหรือท าขั้นบันไดดิน ดินที่มีโอกาสเกิดการชะล้างพังทลายมีเนื้อที่ประมาณ 1,057,503 ไร่หรือร้อยละ
10.75 ของเนื้อที่ทั้งจังหวัด ได้แก่ กลุ่มชุดดินที่ 48D 48E 56D 56E 62 ES RL
ดินที่มีการใช้ที่ดินผิดประเภท
ดินที่มีการใช้ที่ดินที่ไม่เหมาะสมกับศักยภาพของดิน (ส่วนใหญ่พบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
เช่น ดินมีความเหมาะสมในการปลูกพืชไร่ ไม้ผลหรือไม้ยืนต้น แต่ได้ถูกดัดแปลงไปใช้ประโยชน์ในการท านา มี
การสร้างคันนา เพื่อเก็บกักน้ า
แนวทางในการแก้ไข ควรที่จะใช้ที่ดินให้เหมาะสมกับศักยภาพของดินนั้น ๆ โดยการเลือกพืชปลูก
หรือท าทางระบายน้ าออกจากนา หรือทะลายคันนา เพื่อใช้ประโยชน์ปลูกพืชไร่ ไม้ผล ดินที่มีการใช้ที่ดินผิด
ประเภท มีเนื้อที่ประมาณ 1,341,942 ไร่ หรือร้อยละ 13.637 ของเนื้อที่ทั้งจังหวัด ได้แก่ กลุ่มชุดดิน
ที่ 6hiB 17hiB 22hiB 25hiB
ทรัพยากรแหล่งน้ า
1.แหล่งน้ าธรรมชาติ
จังหวัดอุบลราชธานีมีแหล่งน ้าธรรมชาติที่เป็น แม่น ้า ห้วย ล าธาร คลอง ประมาณ 938 สาย หนอง
และบึงรวม 466 แห่ง และทางระบายน ้า 194 แห่ง กระจายอยู่ตามอ าเภอต่างๆ แม่น ้าและล าห้วยสายใหญ่ที่
ส าคัญคือ
- แม่น ้ามูล ต้นก าเนิดเกิดจากเทือกเขาวงและเขาละมังของเทือกเขาสันก าแพง ในเขตอ าเภอปักธงชัย
จังหวัดนครราชสีมา เฉพาะช่วงที่ไหลผ่านจังหวัดอุบลราชธานีมีความยาวประมาณ 100 กม. ไหลผ่านอ าเภอ
เมือง วารินช าราบ พิบูลมังสาหารและโขงเจียม ปัจจุบันมีเขื่อนปากมูลกั้นล าน ้าสายนี้ สามารถใช้ประโยชน
ทางด้านการเกษตรไดประมาณ 160,000 ไร่