Page 20 - การไถกลบพืชปุ๋ยสดและตอซังข้าวร่วมกับการใช้น้ำหมักชีวภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตในพื้นที่ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน ตำบลโนนกลาง อำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี
P. 20
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
11
group) ซึ่งส่วนใหญ่ มีเนื้อดินเป็นทรายและระดับความอุดมสมบูรณ์ต่ ามาก นอกจากนี้ในพื้นที่ส่วนใหญ่
เกษตรกรได้ท าเกษตรกรรมติดต่อมาเป็นเวลานาน
แนวทางในการแก้ไข จึงควรมีการเพิ่มธาตุอาหารพืชให้แก่ดิน โดยการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมีใน
อัตราส่วนที่พอเหมาะแก่พืชแต่ละชนิดในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม เช่น ข้าวควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจนหลังหว่าน
เพื่อให้ต้นอ่อนเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วหรือใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัสช่วงข้าวตั้งท้อง ดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ า มีเนื้อที่
ประมาณ 9,544,750 ไร่ หรือร้อยละ 96.99 ของเนื้อที่ทั้งจังหวัด ยกเว้น กลุ่มชุดดินที่ 1 4 7 7hi 33B และ
38B
ดินทราย
ดินที่มีเนื้อดินเป็นดินทราย หรือเป็นดินทรายปนดินร่วนที่มีความหนามากกว่า 50 เซนติเมตร จากผิว
ดินท าให้ดินอุ้มน้ าได้น้อย ดินมีโอกาสขาดแคลนน้ าได้ง่าย การดูดซับธาตุอาหารต่ า การชะล้างสูญเสียหน้าดิน
เกิดได้ง่าย และเกิดร่องลึกในทางน้ าผ่าน
แนวทางในการแก้ไข จึงควรมีการปลูกพืชหมุนเวียนตลอดปีเพื่อรักษาหน้าดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งควร
ปลูกพืชปุ๋ยสด (ถั่วพร้า อัตรา 10-12 กิโลกรัม/ไร่ หรือ ถั่วพุ่ม อัตรา 8-10 กิโลกรัม/ไร่ หรือปอเทือง 6-8
กิโลกรัม/ไร่) แล้วไถกลบระยะออกดอก นอกจากท าให้คุณภาพของดินด้านกายภาพดีขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่ม
ปริมาณอินทรียวัตถุอีกด้วย หรือการเลือกชนิดของพืชที่จะปลูก โดยอาจจะท าเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ หรือปลูก
ไม้ใช้สอยประเภทที่โตเร็วและทนแล้งได้ดี ดินทราย มีเนื้อที่ประมาณ 1,149,603 ไร่ หรือร้อยละ
11.682 ของเนื้อที่ทั้งจังหวัด ได้แก่ กลุ่มชุดดินที่ 24 41B 41C 44 44B และ 44C
ดินตื้น
ดินที่มีชิ้นส่วนขนาดโตมากกว่า 2 มิลลิเมตร ปริมาณมากกว่าร้อยละ 35 โดยปริมาตร และอาจพบ
ชั้นหินพื้นภายในความลึก 50 เซนติเมตร จากผิวดิน ท าให้ดินมีชิ้นส่วนที่ละเอียดหรือเนื้อดินละเอียดน้อย จึงท า
ให้ความสามารถในการดูดซับน้ าและธาตุอาหารต่ า เกิดการสูญเสียธาตุอาหารพืชที่เป็นประโยชน์ได้ง่ายก่อนที่
พืชจะน าไปใช้ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตและการชอนไชของรากพืชลงไปหาธาตุอาหารและน้ า การค้ า
ยันและการทรงตัวของต้นพืชไม่ดีและล้มง่าย พื้นที่ที่เป็นดินตื้นมากหรือมีก้อนกรวด เศษหินหรือลูกรังอยู่บนผิว
ดินมาก ๆ จะเป็นอุปสรรคต่อการไถพรวน รวมทั้งความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ าและขาดแคลนน้ าได้ง่าย
แนวทางในการแก้ไข บริเวณที่มีหน้าดินอยู่บ้างและไม่มีเศษหิน ก้อนหิน หรือลูกรังอยู่บนผิวดิน
มาก ควรใช้ปลูกพืชรากสั้น เช่น พืชไร่ หรือพืชผัก หรือขุดหลุม กว้าง x ยาว x ลึกเท่ากับ 75x75x75
เซนติเมตร แล้วน าดินอื่นที่เหมาะสมคลุกเคล้ากับปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก อัตรา 15-25 กิโลกรัมต่อหลุมมาใส่เพื่อ
ปลูกไม้ผล บางแห่งที่ตื้นมากหรือมีเศษหินลอยหน้ามากไม่ควรใช้พื้นที่นั้น จึงเหมาะส าหรับเป็นป่าธรรมชาติ
เท่านั้น ดินตื้น มีเนื้อที่ประมาณ 2,014,006 ไร่ หรือร้อยละ 20.466 ของเนื้อที่ทั้งจังหวัด ได้แก่กลุ่มชุดดินที่
25hi 5hiB 46B 48B 48C 48D 48E 49 49B และ RL
ดินเค็ม
ดินที่มีปริมาณเกลือในดิน ในปริมาณที่เป็นอันตรายต่อพืช การใช้พื้นที่ดินเค็มเพื่อการเกษตรมีหลัก
ส าคัญอยู่ว่า จะต้องป้องกันไม่ให้มีปริมาณของเกลือในบริเวณรากพืชมากจนเป็นอันตรายต่อพืช การใช้
ประโยชน์พื้นที่ดินเค็มส่วนใหญ่จะใช้ประโยชน์ในการท านา ผลผลิตที่ได้ต่ าและข้าวมักจะเสียหายอยู่เสมอ