Page 196 - ปุ๋ยอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ในประเทศไทย
P. 196
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
185
6) มีการไถพรวนเท่าที่จ่าเป็น และไถตื้นๆ ใส่ซากพืชและปุ๋ยอินทรีย์อย่างเพียงพอ ท่าให้ 1)
อินทรียวัตถุในดินเพิ่มขึ้น และ 2) เพิ่มปริมาณอินทรียสารที่มีศักยภาพในการปลดปล่อยไนโตรเจน สาร
เหล่านี้จะแปรสภาพโดยกระบวนการมินเนอราลไลเซชัน เป็นแอมโมเนียมไอออนได้ค่อนข้างรวดเร็ว
นอกจากนี้กระบวนการย่อยสลายอินทรียสารของจุลินทรีย์ยังก่อให้มีการสะสมสารฮิวมัสซึ่งสลายยาก และ
กลายเป็นแหล่งของไนโตรเจนที่จะมีการปลดปล่อยอย่างช้าๆอีกด้วย
10. การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการบํารุงดินแบบผสมผสาน
ส่าหรับการบ่ารุงดินแบบผสมผสาน มีหลักการปฏิบัติ ดังนี้
1) ปรับปรุงดินทางเคมีด้วยสารปรับปรุงดิน เช่น ใส่ปูนในดินกรด เพื่อปรับพีเอชให้ใกล้กลาง ซึ่ง
จะช่วยให้ธาตุอาหารเดิมในดิน และปุ๋ยที่ใช้มีความเป็นประโยชน์สูง
2) ปรับปรุงสมบัติทางฟิสิกส์ ด้วยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับการไถพรวนที่เหมาะสม เพื่อ
เอื้ออ่านวยให้รากพืชแผ่ขยายได้ดีทั้งแนวราบและแนวดิ่ง
3) มีการอนุรักษ์ดินและน้่าอย่างเหมาะสม ด้วยวิธีการทางพืช เช่น ใช้ระบบการปลูกพืชหมุนเวียน
และปลูกพืชคลุมดิน ร่วมกับวิธีการเชิงกล เช่นการไถพรวนตามแนวระดับ และใช้มาตรการอื่นๆตามความจ่า
เป็น เพื่อลดการสูญเสียดินและน้่า
4) ใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อเสริมธาตุอาหารบางธาตุที่ยังไม่เพียงพอ ช่วยให้ความอุดมสมบูรณ์ของดินสูง
เหมาะกับความต้องการของพืชที่ปลูก
5) ใช้ปุ๋ยชีวภาพ เพื่อให้จุลินทรีย์เหล่านั้นเพิ่มปริมาณธาตุอาหาร หรือเปลี่ยนรูปของธาตุอาหารที่
ไม่เป็นประโยชน์ให้เป็นประโยชน์ต่อพืช ซึ่งจะช่วยลดอัตราปุ๋ยหรืองดการใช้ปุ๋ยเคมีที่ให้บางธาตุ
จึงควรใช้ปุ๋ยวิธีการแบบผสมผสาน เพราะ
1) การใช้อินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพมากที่สุดเท่าที่จะหาได้ เพื่อบ่ารุงดินในด้านกายภาพ เคมี และ
ชีวภาพตลอดจนปลดปล่อยธาตุอาหารต่างๆ ออกมาให้พืชใช้ประโยชน์
2) ถ้าธาตุอาหารจากปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพไม่เพียงพอกับพืช ก็เสริมด้วยปุ๋ยเคมีตามความ
จ่าเป็น โดยอาศัยการประเมินความอุดมสมบูรณ์ของดิน เป็นตัวก่าหนดชนิดและอัตราของปุ๋ยเคมีที่ต้องการ
ใช้ ทั้งต้องค่านึงถึงผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่เหมาะสมในระยะสั้นและระยะยาวด้วย
โดยที่ความอุดมสมบูรณ์ของดินมีความสัมพันธ์กับการปุ๋ยแบบผสมผสาน โดยปรกติดินที่มี
อินทรียวัตถุสูงกว่า 2.5 เปอร์เซ็นต์ นอกจากจะปลดปล่อยไนโตรเจนรูปที่เป็นประโยชน์ได้ค่อนข้างมากแล้ว
ยังมีศักยภาพในการให้ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ธาตุรอง และจุลธาตุรูปที่เป็นประโยชน์ได้ค่อนข้างดีด้วย ซึ่ง
หลายธาตุมีแนวโน้มที่จะเพียงพอส่าหรับพืช หากใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อเสริมบางธาตุก็ใช้ในอัตราต่่า ดังนั้นถ้า
สามารถเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดิน ได้แก่ การใส่ปุ๋ยอินทรีย์ลงดินย่อมมีผลท่าให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้น
ท่าให้มีการใช้ปุ๋ยเคมีลดลงก็สามารถท่าให้พืชได้รับธาตุอาหารในการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตอย่างเพียงพอ
นอกจากนี้การปลูกพืชปุ๋ยสด เช่น โสนอัฟริกันและไถกลบลงดิน โดยโสนอัฟริกันน้่าหนักสด 2 ตันต่อไร่
สามารถให้ไนโตรเจน 12 กิโลกรัมNต่อไร่ หรือหว่านแหนแดงตารางเมตรละ 0.3 – 0.4 กิโลกรัม ข้าวสามารถ
ดูดไนโตรเจนที่แหนแดงปลดปล่อยออกมาได้ 33 – 69 เปอร์เซ็นต์ ท่าให้สามรถลดการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนให้แก่
ข้าวได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการใช้ปุ๋ยบ่ารุงดินแบบผสมผสานจะท่าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะปุ๋ยอินทรีย์