Page 197 - ปุ๋ยอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ในประเทศไทย
P. 197
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
186
จะช่วยในการปรับปรุงสมบัติทางกายภาพ เคมี และชีวภาพของดินให้เหมาะสมกับการปลูกพืช ส่วนปุ๋ยเคมี
จะเป็นแหล่งให้ธาตุอาหารของพืชในส่วนที่ไม่เพียงพอ
ข้อเสนอแนะ
1. การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุในดินให้สูงขึ้นในระดับที่ต้องการ ควร
ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก เพราะสามารถก่าหนดอัตราการใส่ได้ถูกต้อง ดังที่กล่าวมาแล้วในบทที่ 3 ในหัวข้อ
หลักการเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน และถ้าปริมาณอินทรียวัตถุในดินให้อยู่ระดับ 2.5 – 3.0 เปอร์เซ็นต์ จะมีความ
เหมาะสมอย่างยิ่ง แต่ปริมาณอินทรียวัตถุในดินจะมีการสลายไป ดังนั้นจึงมีการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ทุกปีเพื่อชดเชย
ส่วนที่สลายไป และถ้าสามารถรักษาปริมาณอินทรียวัตถุในดินระดับนี้ไว้อย่างต่อเนื่อง แสดงว่าได้มีการ
ปรับปรุงดินจนมีศักยภาพสูงในการปลดปล่อยธาตุอาหารต่างๆ อย่างเพียงพอกับพืชรากตื้นส่วนมาก และ
สามารถเข้าสู่ระบบเกษตรอินทรีย์ได้
2. การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ โดยมีวัตถุประสงค์เป็นแหล่งธาตุอาหารของพืช ต้องทราบความต้องการธาตุ
อาหารของพืชที่ปลูก ควรท่าการวิเคราะห์ระดับธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ในดินและปริมาณธาตุอาหารใน
ปุ๋ยอินทรีย์แต่ละชนิดโดยที่ปริมาณธาตุอาหารของปุ๋ยคอกจะขึ้นอยู่กับ ชนิดของสัตว์ ขนาดของสัตว์ สภาพ
ของการเลี้ยง ปุ๋ยหมักจะขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุดิบที่น่ามาท่าปุ๋ยหมัก ส่วนปุ๋ยพืชสดจะขึ้นอยู่กับชนิดของพืช
ปุ๋ยสดและสภาพดินที่ปลูก ดังนั้น การใช้ปุ๋ยหมักและปุ๋ยคอกจ่าเป็นต้องวิเคราะห์ธาตุอาหารก่อน จึงสามารถ
ก่าหนดอัตราการใส่ที่เหมาะสมกับความต้องการธาตุอาหารของพืชได้แต่ส่วนมากต้องใช้ในปริมาณที่มาก ซึ่ง
ในด้านการปฏิบัติของเกษตรกรเป็นได้ยาก ส่วนปุ๋ยพืชสดต้องวิเคราะห์ธาตุอาหารและน้่าหนักของต้นที่สับ
กลบ ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงควรมีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมี เพื่อน่าผลที่ได้มาวิเคราะห์ความเชื่อมั่น
ว่าธาตุอาหารเพียงพอกับพืชที่ปลูกอย่างแท้จริง โดยอาจมีการใช้น้่าหมักช่วยในการส่งเสริมการเจริญเติบโต
ของพืช เพราะมีธาตุอาหารพืชน้อยมากแต่มีกรดอินทรีย์และฮอร์โมนที่พืชต้องการ ท่าให้การใช้ปุ๋ยแบบ
ผสมผสานปรับปรุงบ่ารุงดินในระบบเกษตรอย่างยั่งยืน เพราะปุ๋ยอินทรีย์ท่าให้สมบัติทางเคมี กายภาพ และ
ชีวภาพของดินมีความเหมาะสมต่อการปลูกพืช ส่วนปุ๋ยเคมีเป็นแหล่งให้ธาตุอาหารเพิ่มแก่พืชในกรณีที่พืช
ขาดธาตุอาหาร
3. การใช้ปุ๋ยอินทรียวัตถุในสภาพพื้นที่ของเกษตรกร ควรพิจารณาวิธีการที่เหมาะสมและเป็นไปได้
ซึ่งอาจจะเป็นวิธีการที่เกษตรกรใช้อยู่แล้วหรือการปรับปรุงวิธีการของเกษตรกรให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น เช่น
แหล่งวัตถุดิบของปุ๋ยอินทรีย์แต่ละชนิดที่ควรอยู่ใกล้บริเวณพื้นที่ของเกษตรกร ส่งเสริมความรู้ใหม่ในการผลิต
ปุ๋ยอินทรีย์ให้มีธาตุอาหารเพิ่มขึ้น การรวมกลุ่มของเกษตรกรเพื่อช่วยกันผลิตปุ๋ยอินทรีย์ และควรแนะน่า
ความรู้ให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์แต่ละชนิดผสมผสานกัน เพื่อลดการใช้ปุ๋ยเคมีลง
4. พื้นที่ท่าการเกษตรมากๆ เช่น การท่านา หรือการท่าไร่ ถ้าต้องการปรับปรุงบ่ารุงดินควรใช้ปุ๋ยพืช
สด แต่ถ้าพื้นที่ไม่มาก เช่น สวนผลไม้ ปาล์ม ผัก หรือการท่าสวนไม้ดอก ควรใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก
เพราะ มีปริมาณการใช้ที่น้อยและพืชสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีการใช้เป็นหลุม
หรือเป็นแถว
5. ควรให้ความรู้เกี่ยวกับปุ๋ยอินทรีย์ชนิดต่างๆ ให้กับเกษตรกร หมอดินอาสา เจ้าหน้าที่ของรัฐ
ตลอดจนนักเรียนตามชนบทได้มีความรู้และความเข้าใจ โดยการสาธิตวิธีต่างๆ จนเข้าใจและสามารถน่าไป