Page 80 - หลักการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในเขตพัฒนาที่ดิน
P. 80

755

                                                     คาา  i   =   70 มิลลิเมตรตอชั่ววโมง

                                                     พื้้นที่รับน้ํา   B   =   230 ไร        =         230   เฮกตาาร
                                                                                                    6.25

                                                     อัตตราการไหลขของน้ําไหลบา (q)   =  0.45 x 70 x 230

                                                                                                      3660 x 6.25

                                                                                  =  3.21  ลูกบาศกเมมตรตอวินาที


                                                     ป ิ ริมาณน้ําไหลบาของพื้นที่รับน้ํา  B         Q = CIA
                                                                 ล
                                                     I   = ปริมาณน้ําาฝนทั้งป      =  1,283 ลูกบาศกเมมตรตอป

                                                      Q  = 0.45 x 1,2283 x 230                =  21,,246.48 ลูกบาาศกเมตร

                                                                       6.255
                  ภาพทีที่ 4  แผนที่แสสดงพื้นที่รับนํน้ํา (B)



                  9.3. กการชะลางพังทลายของดินน (Soil  erosioon)
                           ประเทศไทยมีพื้นที่ทั้ั้งหมด 320.7  ลานไร พื้นที่ที่สวนใหญมีกการสูญเสียดินนอยูระหวาง 00 – 50 ตันตออ

                  ไรตออป โดยภาคใตตมีการสูญเสียดินสูงมากกกวาภาคอื่นๆ คือพื้นที่สวนนใหญมีการสูญเสียดินระหหวาง 0  –  500

                  ตันตออไรตอป ขณะที่ภาคเหนืออมีการสูญเสียยดินระหวาง 0  –  38 ตันนตอไรตอป ภภาคกลางมีกาารสูญเสียดินน

                  ระหววาง 0 – 17 ตัันตอไรตอป  ภาคตะวันอออกมีการสูญเสีสียดินระหวางง 0 – 16 ตันตตอไรตอป ภาาคตะวันตกมีมี
                  การสูสูญเสียดินระหหวาง 0  –  110 ตันตอไรตตอป และภาคคตะวันออกเฉีฉียงเหนือมีกาารสูญเสียดินต่ําสุดมีคาอยูยู

                  ระหววาง 0 – 4 ตันตตอไรตอป

                            การชะลลางพังทลาย เปนกระบวนนการที่เกิดจากกการที่มีแรงซซึ่งอาจเกิดจากน้ํา ลมหรือแรงโนมถวงง
                  ของโโลกมากระทําาตอวัตถุหรืออสสารใหแตกแยกออกจาากกัน แลวเคคลื่อนยายอนุภาคของดินหหรือวัตถุธาตุตุ

                  ดังกลลาว ไปตกตะกกอนทับถมอีกที่หนึ่ง ซึ่งเปปนลักษณะขอองกระบวนกการที่เคลื่อนไหว (Dynamic process) (สมม

                  เจตน, 2522)  และกการชะลางพังทลายของดินน (Soil erosion)) หมายถึงพฤติกรรมของกการเกิดการชะะลางพังทลายย

                  ของดิดิน สวนคําวา การตกทับถมมของตะกอนน (Sedimentatioon)  หมายถึงกการตกตะกอนของอนุภาคคดินหรือวัตถุถุ
                  ตางๆที่ถูกชะลางพัพังทลายมา ตัววสารหรือวัตถถุที่เคลื่อนยายยไปเรียกวา “ตตะกอน” (Sediiment)

                           ตัวการทีที่ทําใหเกิดการชะลางพังทลายของดิน (Erosive agentss) ไดแกน้ําแลละลม (Hudsoon, 1985) การร

                  ชะลางพังทลายของดินที่เกิดในประเทศไทย มีน้ําเปนตัวกการที่สําคัญที่สุด การเกิดกการชะลางพังททลายของดินน
                  นั้นประกอบดวยขขบวนการสําคัญ 2  ขบววนการ คือ ขบบวนการที่ทําาใหอนุภาคดิดินแตกกระจาย (Detachingg

                  processs) และขบวนนการเคลื่อนยาย (Transportiing process) โดดยทั้งสองขบวนการนี้เกิดจจากการกระททําของตัวการร

                  ที่กอใใหเกิดการพังทลาย (Erosion Agents) คือนน้ําฝน
   75   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85