Page 77 - หลักการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในเขตพัฒนาที่ดิน
P. 77
72
คาความรุนแรงของน้ําฝน พิจารณาจากความตองการที่ใหโครงสรางนั้นๆ สามารถใชงานไดนานมากนอย
เพียงใด เชน
คันดินเบนน้ํา หรือกักน้ํา ตองการใหทน 5 ป
อางกักน้ําหรือบอดักตะกอนดิน ตองการใหทน 10 ป
อางเก็บน้ํา ตองการใหทน 20 ป
(5) ความเร็วของน้ําไหลบาในรองน้ํา โดยปกติแลวกอนที่จะกอสรางโครงสรางเพื่อปองกัน
การชะลางพังทลายของดิน ก็ควรจะตองมีการคํานวณและออกแบบ เพื่อใหน้ําที่ไหลบาไปบนพื้นที่นั้นมี
ความเร็ว ที่จะไมกอใหเกิดการกัดเซาะและสูญเสียหนาดิน
สูตรของการคํานวณความเร็วของน้ําไหลบาในรองน้ํา จาก Manning’s formula
คือ V = 1 R S
2/3 1/2
n
ในที่นี้ V = ความเร็วของกระแสน้ํา เปน เมตรตอวินาที
R = รัศมีของน้ํา (Hydraulic radius)
S = ความลาดเท มีหนวยเปนทศนิยมของเมตร
n = สัมประสิทธิ์ของความขรุขระของผิว
ความเร็วสูงสุดที่น้ําไหลไปไดในรองน้ํา ขึ้นอยูกับชนิดของดิน และความหนาแนนของพืชที่ปก
คลุมอยู (ถามี) ตารางที่ 7 แสดงใหเห็นถึงคาความเร็วสูงสุดที่น้ําไหลในรองน้ํา ซึ่งไมมีหญาปกคลุม
ตารางที่ 7 ความเร็วสูงสุดของน้ําในรองน้ําที่ไมมีหญาปกคลุม
เนื้อดิน ความเร็วของน้ํา (เมตรตอวินาที)
ดินเหนียว 0.3 เมตรตอวินาที
ดินทรายละเอียดหรือดินรวนปนทราย 0.5 เมตรตอวินาที
ดินรวน 0.6 เมตรตอวินาที
ดินรวนที่มีการจับตัวกันแนน 0.7 เมตรตอวินาที
(6) ความจุของรองน้ํา (Channel capacity) สําหรับในรองน้ําของคันดิน หรือทางระบายน้ํา
ของอางเก็บน้ํา จําเปนตองมีความจุเพียงพอที่รับปริมาณน้ําไหลบาทั้งหมด
คํานวณจากสูตร q = CiA ลูกบาศกเมตรตอวินาที
360
ไดความจุของรองน้ํา คํานวณไดจาก a = q ลูกบาศกเมตรตอวินาที
v