Page 9 - รายงานการสำรวจและจำแนกพื้นที่ชุ่มน้ำภาคตะวันอออก
P. 9
บทที่ 2
พื้นที่ชุมน้ําและอนุสัญญาวาดวยพื้นที่ชุมน้ํา
2.1 ความหมาย
คําจํากัดความของระบบนิเวศที่เรียกวา “พื้นที่ชุมน้ํา” ปจจุบันนานาประเทศทั่วโลกยอมรับคํา
นิยามปรากฏในอนุสัญญาแรมซาร หรืออนุสัญญาวาดวยพื้นที่ชุมน้ําที่มีความสําคัญระหวางประเทศที่
ใหคําจํากัดความของพื้นที่ชุมน้ําวา “พื้นที่ลุม พื้นที่ราบลุม พื้นที่ลุมชื้นแฉะ พื้นที่ฉ่ําน้ํา มีน้ําทวม มี
น้ําขัง พื้นที่พรุ พื้นที่แหลงน้ํา ทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและที่มนุษยสรางขึ้น ทั้งที่มีน้ําขัง หรือ
ทวมอยูถาวรและชั่วครั้งชั่วคราว ทั้งที่เปนแหลงน้ํานิ่งและน้ําไหลทั้งที่เปนน้ําจืด น้ํากรอยและน้ําเค็ม
รวมไปถึงพื้นที่ชายฝงทะเล และพื้นที่ของทะเล ในบริเวณซึ่งเมื่อน้ําลดลงต่ําสุดมีความลึกของระดับ
น้ําไมเกิน 6 เมตร ”
“ Areas of marsh, fen, peatland or water, whether natural or artificial, permanent or
temporary, with water that is static, flowing, fresh, brackish or salt, including areas of marine water,
the depth of which at low tide does not exceed six metres”
คําไทยและคําในภาษาทองถิ่น ที่ใชเรียกพื้นที่ซึ่งเขาขายวาเปนพื้นที่ชุมน้ําธรรมชาติไดแก
หนอง คลอง บึง บอ กระพัง (ตระพัง) แมน้ํา ลําธาร แคว ละหาน ชายคลอง ฝงน้ํา สบธาร สระ
ทะเลสาบ แอง ลุม กุด ทุง กวาน มาบ ทาม พรุ สนุน น้ําตก แกง หาดทราย หาดโคลน หาดเลน
ชายทะเล ชายฝงทะเล พืดหิน ปะการัง คุง อาว ดินดอนสามเหลี่ยม ชะวากทะเล ปาเลน ปาโกงกาง ปา
จาก เปนตน สวนพื้นที่ชุมน้ําที่มนุษยสรางขึ้น ไดแก นาขาว นากุง นาเกลือ บอปลา อางเก็บน้ํา เปนตน
2.2 บทบาทและหนาที่ของพื้นที่ชุมน้ํา
พื้นที่ชุมน้ํามีบทบาทและหนาที่หลัก 3 ประการ คือ
1.) ทําหนาที่ดวยตัวของตัวเอง (Function) ไดแก
1.1) เปนตัวเติมน้ําใตดิน เชน กันไมใหน้ําเค็มเขามาแทรกน้ําใตดิน
1.2) นําน้ําใตดินมาเติมในพื้นที่ชุมน้ํา ทําใหประชากรของชีวภาพในพื้นที่ชุมน้ํา
สามารถคงอยูไดอยางถาวร
1.3) ปองกันน้ําทวม โดยเปนพื้นที่รองรับน้ําไหลบาลงมา
1.4) เปนแนวกันชนกระแสน้ํา คลื่นและลม เพื่อปองกันชายฝงถูกทําลาย
1.5) รองรับตะกอนและสารพิษ