Page 10 - รายงานการสำรวจและจำแนกพื้นที่ชุ่มน้ำภาคตะวันอออก
P. 10

1.6)  รองรับธาตุอาหาร

                                  1.7)  ชวยเพิ่มมวลชีวภาพ

                                  1.8)  ชวยลดความรุนแรงของพายุและลม

                                  1.9)  ชวยควบคุม Microclimate บริเวณนั้นไมใหแปรเปลี่ยนไดงาย
                                  1.10) ใชเปนเสนทางคมนาคม

                                  1.11) เปนที่สถานที่พักผอนหยอนใจ

                        2. ทําหนาที่ใหผลผลิต (Product) ไดแก
                                  2.1)  ใหผลผลิตทางทรัพยากรปาไม

                                  2.2)  ใหผลผลิตสัตวปา

                                  2.3)  ใหผลผลิตสัตวน้ํา
                                  2.4)  ใหผลิตภัณฑพืชน้ํา เพื่อเปนอาหารสัตว

                                  2.5)  ใหผลผลิตทางการเกษตร

                                  2.6)  เปนแหลงน้ําสําหรับอุปโภค-บริโภค
                                  2.7)  เปนแหลงไดรับพลังงานจากไมและ Peat

                       3. มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง (Attributes) ไดแก

                                  3.1)  มีความหลากหลายทางชีวภาพ (Biological diversity)  พื้นที่ชุมน้ําบางแหง

                  เปนที่อยูอาศัยถาวรของสัตวปา สัตวที่อพยพมาอาศัยเปนฤดูกาล และที่อยูอาศัยของสัตว พืช ที่หายาก
                  หรือใกลสูญพันธุ

                                  3.2)  เปนเอกลักษณทางสังคมหรือมรดกทางธรรมชาติ  อาทิ  ความสวยงามตาม

                  ธรรมชาติหรือสัตวปาที่อาศัยอยูในพื้นที่ชุมน้ํา

                  2.3    ปญหาการคุกคามของพื้นที่ชุมน้ํา
                          ในภาพรวมแลวปญหาการคุกคามพื้นที่ชุมน้ําของภาคตะวันออก  ซึ่งทําใหพื้นที่ชุมน้ําและ

                  คุณภาพของน้ําโดยพื้นที่ชุมน้ําลดลง ไดแก

                                  2.3.1 จํานวนประชากรเพิ่มขึ้น  การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมสูงขึ้น  อัตราการใช

                  ประโยชนจากทรัพยากรในพื้นที่ชุมน้ําจึงเพิ่มสูงขึ้น  หรือมีความตองการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ชุม
                  น้ําไปเพื่อใชในกิจกรรมการพัฒนาอื่นๆ

                                  2.3.2 การใชประโยชนพื้นที่ชุมน้ําเปนไปอยางไมมีประสิทธิภาพ  ไมถูกตอง  ไม

                  เหมาะสมจึงมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ชุมน้ําตามธรรมชาติไปเพื่อประโยชนในกิจกรรมตางๆ  เชน  การ










                                                            4
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15