Page 19 - รายงาน ผลของการใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพเพื่อเร่งการย่อยสลายตอซังข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ Effect of using biological products for accelerating the degradation of maize stubble
P. 19
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
13
แรกที่เจริญบนซากพืช หรือพบหลังจากรากลุ่มที่เป็นปรสิตที่ไม่รุนแรงหมดไปแล้ว ตัวอย่างรากลุ่มนี้ ได้แก่
Mucor sp. Absidia sp. และ Rhizopus sp. เป็นต้น
กลุ่มที่ 3 เป็นราที่มีความสามารถในการย่อยสลายเซลลูโลสและเฮมิเซลลูโลส ซึ่งเป็น
องค์ประกอบหลักของซากพืชได้ดี มักพบเจริญหลังจากราที่ดำรงชีพแบบ saprophyte ตัวอย่างรากลุ่มนี้ ได้แก่
Chaetomium sp. Fusarium sp. และ Stachybotrys sp. เป็นต้น
กลุ่มที่ 4 เป็นราที่มีความสามารถในการย่อยสลายและใช้ประโยชน์ลิกนิน และบางครั้งก็มี
ความสามารถในการย่อยสลายเซลลูโลสและเฮมิเซลลูโลสด้วย ซึ่งมักปรากฏเป็นกลุ่มสุดท้ายบนซากพืช รากลุ่ม
นี้ส่วนใหญ่อยู่ใน Subdivision Basidiomycotina
กลุ่มที่ 5 เป็นราที่เจริญร่วมกับราในกลุ่มที่ 3 หรือกลุ่มที่ 4 รากลุ่มนี้มักอยู่ใน Class
Oomycetes และใน Subdivision Zygomycotina รวมทั้งราหลายชนิดใน Subdivision โดยอาจเป็นปรสิต
เส้นใยของราชนิดอื่น หรือมีส่วนร่วมในการสร้างเอนไซม์ย่อยสลายซากพืชร่วมกับรากลุ่มอื่น อย่างไรก็ตาม
กิจกรรมของรากลุ่มนี้ยากที่จะแบ่งแยกออกมาได้อย่างเด่นชัดเพราะบางครั้งก็สามารถเจริญได้โดยการใช้อาหาร
จากซากพืชโดยตรง
2) เชื้อราสายพันธุ์ Corynascus sp.
เชื้อราสายพันธุ์ Corynascus มีการกระจายอย่างจำกัดทั่วโลก ในอินเดียจนถึงปัจจุบันมี
รายงาน Corynascus 3 ชนิด ได้แก่ C. Sepedonium C. sexualis และ C. similis ในประเทศอินเดีย
C. sepedonium สามารถตรวจพบและแยกเชื้อได้จากตัวอย่างดินในพื้นที่เกษตร ดินชายทะเล ป่าชายเลน
และไรโซเพลนของพืช โดย C. similis สามารถแยกได้จากดินในพื้นที่ทางตอนเหนือของอินเดีย และมีรายงาน
การพบเชื้อ Corynascus verrucosus จากดินท้องถิ่นในพื้นที่อาร์เจนตินา (Stchigel et al., 2000) ลักษณะ
สัณฐานวิทยาของ Corynascus verrucosus สามารถเจริญได้ดีอุณหภูมิระดับปานกลาง (Mesophilic) น้อย
กว่า 20 - 45 องศาเซลเซียส จนถึงทนอุณหภูมิสูง (thermotolerant) 20 - 70 องศาเซลเซียส การสืบพันธุ์ของ
เชื้อราแบบ homothallic เป็นเชื้อรา thallus มี 2 เพศ สามารถสืบพันธุ์แบบมีเพศได้ มีแอสโคมาตา
(ascomata) : เพอริเดียม (peridium) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 40 - 70 ไมโครเมตร มี asci ขนาด 25 - 38 x 21 - 32
ไมโครเมตร รูปร่าง ascospores ทรงรี ขนาด 11 - 18 x 6.5 - 9 ไมโครเมตร และมี conidia เส้นผ่าศูนย์กลาง
7 - 10 ไมโครเมตร สามารถพบเชื้อราชนิดนี้ได้จากดิน (Stchigel et al., 2000; Brink et al., 2012) (ภาพที่ 5
6 และ 7)
ภาพที่ 5 ลักษณะแอสโคสปอร์รูปทรงรี (Ellipsoidal ascospores) ภาพ SEM 1,500 เท่า
ที่มา : Stchigel et al. (2000)