Page 29 - แนวทางการส่งเสริมการเกษตรที่เหมาะสมตามฐานข้อมูลแผนที่เกษตรเชิงรุก Agri-Map จังหวัดแม่ฮ่องสอน
P. 29

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

                                                               22








                              4) พื้นที่ที่มีศักยภาพหรือมีความเหมาะสมสําหรับการปลูกขาว แตปจจุบันเกษตรกรไมไดใช
                       พื้นที่ปลูกขาว โดยมาปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน ทั้งนี้หากพืชที่ปลูกเปนพืชไร เชน ขาวโพดเลี้ยงสัตว
                       เปนตน ในอนาคตขาวราคาดี เกษตรกรอาจกลับมาปลูกขาวไดเหมือนเดิม แตหากเปนไมผลหรือไมยืนตน

                       การกลับมาปลูกขาวอาจเปนเรื่องยาก ดังนั้นอาจสงเสริมในเรื่องของการทําเกษตรรูปแบบอื่น เชน
                       เกษตรผสมผสาน

                         4.2  ขาวโพดเลี้ยงสัตว

                              1) พื้นที่ปลูกขาวโพดเลี้ยงสัตวที่มีความเหมาะสมสูง (S1) และปจจุบันยังปลูกขาวโพด
                       เลี้ยงสัตวอยู มีเนื้อที่ 345 ไร มีพื้นที่ปลูกมากในเขตอําเภอเมืองแมอองสอน อําเภอปางมะผา และ

                       อําเภอแมสะเรียง ตามลําดับ ทั้งนี้คณะอนุกรรมพัฒนาที่ดินจังหวัดสมควรใหมีการเสนอแผนการใชที่ดิน
                       เพื่อสงวนใหเปนแหลงปลูกขาวโพดเลี้ยงสัตวที่สําคัญของจังหวัด และมีการบริหารจัดการระบบน้ํา

                       การจัดการดิน ปุย พันธุขาวขาวโพดเลี้ยงสัตว โดยรวมกลุมเปนเกษตรแปลงใหญ พัฒนาตอยอดครบ
                       วงจรการตลาดในและตางประเทศการแปรรูป แหลงทุน มีภาครัฐสนับสนุนการทํามาตรฐานสินคา

                       เกษตรอินทรีย และและการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices: GAP) และ
                       เนื่องจากเปนพื้นที่ศักยภาพสูง และภาครัฐควรใหความรูความเขาใจกับเกษตรกรโดยแนะนําวาไมควร
                       ปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่น หากราคาไมดีหรือประสบปญหาโรคและแมลงรบกวนราคาไมดีและ

                       เกษตรกรตองการเปลี่ยนชนิดพืชควรเปลี่ยนเปนพืชไร เพื่อที่วาในอนาคตจะไดกลับมาปลูกขาวโพด
                       เลี้ยงสัตวไดอีก

                              2) พื้นที่ปลูกขาวโพดเลี้ยงสัตวที่มีความเหมาะสมปานกลาง (S2) และปจจุบันยังปลูก
                       ขาวโพดเลี้ยงสัตวอยู มีเนื้อที่ 5,032 ไร สวนใหญอยูในเขตอําเภอปาย อําเภอขุนยวม และอําเภอ

                       แมลานอย เกษตรกรยังคงปลูกขาวโพดเลี้ยงสัตวไดผลดี หลายแหงประสบปญหาขาดน้ําในบางชวง
                       ของการเพาะปลูก ดังนั้นควรสนับสนุนดานการบริหารจัดการระบบน้ํา เชน ชลประทาน จะสราง

                       ความมั่นใจใหกับเกษตรกรในการใชที่ดิน ปญหาการทิ้งถิ่นฐานไปทํางานที่อื่นจะลดลง และพื้นที่ใน
                       เขตนี้มีความเหมาะสมสําหรับการเกษตรแบบผสมผสาน เกษตรแมนยําหรือเกษตรทฤษฎีใหม เปนตน
                       และภาครัฐควรใหความรูความเขาใจกับเกษตรกรโดยแนะนําวาไมควรปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่น

                       ทั้งนี้หากขาวโพดเลี้ยงสัตวราคาไมดีและตองการปรับเลี่ยนการผลิตควรเปนพืชไร เพื่อที่วาในอนาคตยัง
                       สามารถกลับมาปลูกขาวโพดเลี้ยงสัตวดังเดิมไดอีก

                              3) พื้นที่ปลูกขาวโพดเลี้ยงสัตวในพื้นที่ไมมีความเหมาะสม (S3 และ N) และปจจุบัน
                       เกษตรกรยังคงใชที่ดินปลูกขาวโพดเลี้ยงสัตวอยู พื้นที่ดังกลาวประสบปญหาซ้ําซาก เชน น้ําทวม ขาดน้ํา

                       ผลผลิตต่ํา กระทรวงเกษตรและสหกรณใหการชวยเหลือเกษตรกรที่ทํากินในพื้นที่นี้ โดยสนับสนุนการ
                       ปรับโครงสรางที่ดิน ปรับปรุงบํารุงดิน สนับสนุนแหลงน้ํา ใหเกษตรกรเลือกปลูกพืชชนิดใหมที่มี

                       ความเหมาะสม และใหผลตอบแทนที่ดีกวา หรือใชพื้นที่ผลิตอาหารเพื่อบริโภคในครัวเรือน หรือเขา
                       โครงการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning by Agri-Map) เปนตน
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34