Page 8 - ผลการใช้ปุ๋ยชีวภาพและปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงต่อขนาดและน้ำหนักของทะลายของปาล์มน้ำมันที่ปลูกในพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดจังหวัดพัทลุง
P. 8
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
4
การตรวจเอกสาร
ดินเปรี้ยวจัดหรือดินกรดเปนดินที่มีการพัฒนาเปนระยะเวลานานลักษณะความแตกตางของชั้นดินเห็น
เดนชัดมากเปนดินที่เกิดจากการทับถมของตะกอนน้ํากรอยหรือตะกอนน้ําทะเลที่มีสารประกอบของธาตุ
กํามะถันปะปนอยู เมื่อเกิดกระบวนการทางเคมีจะกลายเปนแรไพไรท (FeS2) สะสมและเมื่อตะกอนดินที่ทับ
ถมสูงขึ้น น้ําทวมไมถึง จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีเกิดเปนกรดกํามะถัน (H2SO4) ขึ้นในชั้นดินและพบ
สารประกอบจาโรไซท ซึ่งมีสีเหลืองฟางขาวในชั้นดินดวย ในดินเปรี้ยวจัดจะพบหญาประเภทกก กระจูดขึ้นอยู
ทั่วไป และเมื่อขุดลงไปในชั้นดินจะพบคราบสนิมเหล็กในดินและน้ํา น้ําในดินเปรี้ยวจัดจะใสและมีรสฝาด
(กรมพัฒนาที่ดิน, 2549) ลักษณะทั่วไปของดินเปรี้ยวจัดที่พบในบริเวณที่ราบลุม ดินชั้นบนลึกตั้งแต 20-40
เซนติเมตรเปนดินเหนียวถึงเหนียวจัดมีสีเทาหรือสีเทาเขมถึงดํา มีจุดประสีน้ําตาลแก สีแดงปนเหลือง และสี
แดง มีคาความเปนกรดเปนดาง 4.0-5.5 สวนดินชั้นลางเปนดินเหนียวมีสีพื้นเปนสีน้ําตาล หรือสีน้ําตาลปนเทา
ถึงสีเทา มีจุดปะสีเหลืองปนน้ําตาล สีแดง หรือสีเหลืองฟางขาว มีการระบายน้ําเลว ความสามารถในการอุมน้ํา
สูง (นงคราญ, 2536) การเกิดพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดสงผลกระทบตอการใชประโยชนที่ดินเพื่อการเกษตรอยาง
รุนแรงทําใหปลูกพืชไดนอยชนิดและใหผลผลิตต่ํา การปลูกพืชจะไดรับผลกระทบโดยตรงจากความรุนแรงของ
กรดที่เกิดขึ้นในดินโดยการละลายออกมาของธาตุบางชนิด เชน อะลูมินั่ม เหล็ก และแมงกานีส จนถึงระดับที่
เปนพิษตอพืชอีกทั้งทําใหธาตุฟอสฟอรัสซึ่งเปนธาตุอาหารหลักถูกตรึงใหอยูในรูปที่ไมเปนประโยชนตอพืชหรือ
ถูกดูดดึงไปใชไมไดเมื่อปลูกพืชในสภาพน้ําแชขังแมจะดูวาเปนการลดความเปนกรดของดินโดยใชน้ําแตปญหา
ที่ตามมาก็คือความเปนพิษจากกาซไขเนา จากเหล็กและกาซคารบอนไดออกไซด (พิสุทธิ์และคณะ, 2537)
ดินเปรี้ยวจัดหรือดินกรดกํามะถันมักเปนดินที่มีขอจํากัดของธาตุอาหารพืช พบวา โดยมากจะขาดธาตุ N
P K Ca Mg S Cu และ Mo จึงตองมีการเพิ่มใหกับพืช ดินกรดจะมีธาตุที่ละลายไดในชวง pH ต่ําออกมา
มากกวาปกติ เชน อะลูมินัม และเหล็ก เปนตนเมื่อมีการใชปุยเคมีจึงตองใชอัตราที่สูงเนื่องจากมีธาตุอาหาร
บางสวนถูกตรึงโดยธาตุตางๆ เชน ฟอสฟอรัสจะถูกตรึงโดยอะลูมินัมและเหล็ก ปุยแอมโมเนียมและ
โพแทสเซียมก็ถูกชะลางไดงาย หากมีการใชปุยเคมีรวมกับปุยอินทรีย ปุยเคมีจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นเนื่องจาก
สารอินทรียจะจับกับอะลูมินัมและเหล็ก เปนสารประกอบเชิงซอนลดการตรึงฟอสฟอรัสไดระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ปุยอินทรียยังจับปุยแอมโมเนียมไดบางสวน ทําใหลดการสูญเสียชะลางไปไดบาง (เจริญและคณะ,
2540) กลาวไดวา ความเปนพิษของสารประกอบตางๆที่ละลายออกมาในสภาพดินที่เปนกรดจัด เชน
ความเปนพิษของอะลูมินัม เมื่อ pH ลดลง 1 หนวย ปริมาณของอะลูมินัมที่ละลายไดจะเพิ่มขึ้นเปน 10 เทา
อะลูมินัมจะสะสมในเนื้อเยื่อของรากพืชยับยั้งการแบงตัวของเซลลและเอนไซมที่เกี่ยวของกับการสรางผนัง
เซลลทําใหระบบรากพืชไมเจริญเติบโตและความเปนพิษของธาตุเหล็กจะสงผลตอการเจริญเติบโตของพืช
กาซไฮโดรเจนซัลไฟดในดินเปรี้ยวจัดจะทําลายการทํางานของระบบรากพืชทําใหรากเนาหรือออนแอตอการ
เกิดโรค เปนตน (พิสุทธิ์และคณะ, 2536)
กลุมชุดดินที่ 14 มีเนื้อดินเปนดินเหนียว ดินบนสีดําหรือสีเทาปนดํา สวนดินชั้นลางสีเทา พบจุดประสี
เหลืองและสีน้ําตาลปะปนเล็กนอย จะพบดินเลนสีเทาปนเขียวและมีสารประกอบกํามะถันอยูมากตั้งแตความ
ลึก 80 เซนติเมตร ลงไป ปฏิกิริยาดินเปนกรดรุนแรง (pH 4.5) มีความอุดมสมบูรณตามธรรมชาติคอนขางต่ํา
ชุ ด ดิ น ร ะแ ง ะ (Rangae series: Ra) จัด อ ยูใน very fine, mixed, superactive, acid
,isohypertermic Sulfic Endoaquepts เกิดจากการทับถมของตะกอนลําน้ําปจจุบัน บนที่ราบน้ําทะเลทวม
ถึงมากอน ในแองหรือที่ลุมหลังสันริมน้ําซึ่งอยูติดตอกับที่ราบน้ําทวมถึง สภาพพื้นที่ที่พบมีลักษณะราบเรียบ มี
ความลาดชันนอยกวา 1 เปอรเซ็นต การไหลบาของน้ําชา จะมีน้ําทวมผิวดิน 8-10 เดือน ใน 1 ป ระดับน้ําใต
ดินอยูตื้นกวา 1 เมตร เกือบตลอดป (กรมพัฒนาที่ดิน, 2548) โดยมีลักษณะเนื้อดิน คือ ดินชั้นบนเปนดินรวน
เหนียวหรือดินเหนียวมีสีดํา หรือสีเทาปนดํา เนื่องจากมีอินทรียวัตถุมาก ในระดับความลึก 0-25 เซนติเมตร ซึ่ง