Page 18 - ผลของปุ๋ยชีวภาพ (พด.12) ร่วมกับมูลไก่ต่อผลผลิตและคุณภาพแตงโมหลังนาข้าว Effect of Bio-Fertilizer (LDD.12) and chicken manure to yield and quality of watermelon planted after rice.
P. 18

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน




                   โพแทสเซียม เท่ากับ 1.14  และ 0.45  เปอร์เซ็นต์ ตามล าดับ จึงเป็นผลให้ดินหลังการทดลองทั้ง 2  ปี มีปริมาณ
                   โพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์เหลือตกค้างในดินมากที่สุด

                   ตารางที่ 2 สมบัติทางเคมีของดิน ปีที่ 1 (2562) และปีที่ 2 (2563)


                                                                                                     -1
                                                                              -1
                                              OM (%)              P O  (mg.kg )            K O (mg.kg )
                            สมบัติของดิน                            2 5                     2
                                       หลังทดลอง  หลังทดลอง  หลังทดลอง  หลังทดลอง  หลังทดลอง  หลังทดลอง
                            ต ารับ       ปีที่ 1     ปีที่ 2     ปีที่ 1     ปีที่ 2    ปีที่ 1     ปีที่ 2
                    ก่อนทดลองปีที่ 1      0.51         -          18           -         44           -

                            1             0.60       0.93        22 c         67 c       11 d       50 c
                            2             0.57       1.02        19 c         91 ab      16 cd      48 c
                            3             0.46       1.03        36 b         76 bc      30 b       43 c
                            4             0.50       0.98        59 a         103 a      48 a       77 a
                            5             0.46       0.92        24 c         74 bc      25 bc      46 c
                            6             0.47       1.04        24 c         109 a      25 bc      65 b
                         C.V. (%)        20.25       14.28       16.66       15.04      30.58       11.32
                          F-test           ns         ns          **          **          **         **

                   หมายเหตุ  :  ns หมายถึง ไม่มีความแตกต่างทางสถิติ และ  ** หมายถึง ค่าเฉลี่ยมีความแตกต่างกันทางสถิติอย่างมี
                   นัยส าคัญยิ่ง ที่ระดับความเชื่อมั่น 99% ตัวอักษรที่แตกต่างกันในแต่ละคอลัมน์ แสดงความแตกต่างทางสถิติ ที่ระดับ
                   ความเชื่อมั่น 99% โดยวิธี DMRT
                                   ต ารับที่ 1 ควบคุม (ไม่ใส่ปุ๋ยชีวภาพขยายเชื้อพด.และไม่ใส่มูลไก่) ต ารับที่ 2 ปุ๋ยชีวภาพฯ อัตรา 2.4 ตัน
                   ต่อไร่ ต ารับที่ 3 ปุ๋ยชีวภาพฯ อัตรา 0.3 ตันต่อไร่ ร่วมกับมูลไก่ อัตรา 2.1 ตันต่อไร่ ต ารับที่ 4 ปุ๋ยชีวภาพฯ อัตรา 0.6
                   ตันต่อไร่ ร่วมกับมูลไก่ อัตรา 1.8 ตันต่อไร่ ต ารับที่ 5 ปุ๋ยชีวภาพฯ อัตรา 0.9 ตันต่อไร่ ร่วมกับมูลไก่ อัตรา 1.5 ตัน
                   ต่อไร่ และต ารับที่ 6 ปุ๋ยชีวภาพฯ อัตรา 1.2 ตันต่อไร่ ร่วมกับมูลไก่ อัตรา 1.2 ตันต่อไร่


                   2. การเจริญเติบโตของแตงโม

                         2.1 การเจริญเติบโตแตงโมปีที่ 1 (2562) พบว่า การใส่ปุ๋ยชีวภาพ (พด.12) ร่วมกับมูลไก่ทุกอัตรา (ทุกต ารับ
                   การทดลอง) ส่งผลให้แตงโมมีการเจริญเติบโตดีกว่าต ารับที่ 1 (ไม่มีการใส่ปุ๋ยชีวภาพ (พด.12) และมูลไก่ ซึ่งเป็นแปลง
                   ควบคุม  โดยใส่เฉพาะปุ๋ยเคมีสูตร 14-14-21  อัตราตามค าแนะน า 100  กิโลกรัมต่อไร่) (ตารางที่ 3) ทั้งนี้อาจเป็น
                   เพราะปุ๋ยชีวภาพ (พด.12) และมูลไก่นั้นเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่มีปริมาณธาตุอาหารหลักที่จ าเป็นต่อการเจริญเติบโตของ
                   แตงโม ประกอบกับปุ๋ยชีวภาพ (พด.12) จากกลุ่มจุลินทรีย์ที่สามารถตรึงไนโตรเจน รวมทั้งละลายฟอสฟอรัสและ
                   โพแทสเซียม เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่สามารถสร้างธาตุอาหาร หรือช่วยให้ธาตุอาหารเป็นประโยชน์กับพืช เพื่อเพิ่มความ
                   อุดมสมบูรณ์ให้กับดิน และสร้างฮอร์โมนส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช ประกอบด้วยจุลินทรีย์4  ชนิด ได้แก่

                   Azotobactertropicalis  แบคทีเรียตรึงไนโตรเจนแบบอิสระ Burkholderiaunamae  แบคทีเรียละลายฟอสเฟต
                   Bacillus subtilis แบคทีเรียละลายโพแทสเซียม และ Azotobacterchroococcum และแบคทีเรียสร้างฮอร์โมน
                   พืช  (กรมพัฒนาที่ดิน,  2556) ปุ๋ยชีวภาพเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่มีราคาถูกกว่าปุ๋ยเคมีและมีธาตุอาหารหลักที่พืชต้องการ
                   สามารถช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีและมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ช่วยลดต้นทุนการผลิตพืช ลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีลง 25-30
                   เปอร์เซ็นต์ สร้างความสมดุลของธาตุอาหารพืช เพิ่มความเป็นประโยชน์ของธาตุฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมในดิน
                   รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างดินให้โปร่งร่วนซุย ช่วยให้ประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยเคมีและผลผลิตพืชสูงขึ้น (ส านัก
                   เทคโนโลยีชีวภาพทางดิน, 2551)
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23