Page 20 - ผลกระทบจากการเผาตอซังและไม่ไถพรวนต่อสมบัติดินเพื่อ การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บนพื้นที่สูง จังหวัดเชียงใหม่ Effects of Burning and No-tillage on Soil Properties forMaize Production on Upland in Chiang Mai Province.
P. 20
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
8
ห่างเป็นแถบสลับกันขวางความลาดเทของพื้นที่ตามแนวระดับหรือไม่เป็นไปตามแนวระดับก็ได้ มี
วัตถุประสงค์เพื่อลดปริมาณการเคลื่อนย้ายหน้าดิน และลดอัตราการไหลบ่าของน้ำฝนผ่านพื้นที่เพาะปลูกตาม
แนวความลาดเทเพื่อปรับปรุงบำรุงดินลดความเสียหายของพืชที่ปลูก และลดการระบาดของโรคและแมลง
5) การปลูกพืชหมุนเวียน (Crop Rotation) เป็นการปลูกพืชสองชนิดหรือมากกว่า
หมุนเวียนกันลงบนพื้นที่เดียวกัน โดยจัดชนิดของพืชและเวลาปลูกให้เหมาะสมเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำและ
การใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพให้ดินมีความอุดมสมบูรณและมีความสามารถในการให้ผลผลิตพืชสูงเป็นระยะ
เวลานาน ช่วยให้เกิดการหมุนเวียนการใช้ธาตุอาหารของพืช การปลูกพืชหมุนเวียนจะมีอัตราการเสี่ยงน้อย
กว่าการปลูกพืชชนิดเดียว เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรโดยตรงเพราะว่าการปลูกพืชหมุนเวียน มีการปลูกพืช
มากกว่า 1 ชนิดสามารถควบคุมและลดการระบาดของโรคแมลงและวัชพืช
6) การปลูกพืชแซม (Inter cropping) เป็นการปลูกพืชตั้งแต่ 2 ชนิด ขึ้นไปบนพื้นที่ใน
เวลาเดียวกัน โดยทำการปลูกพืชที่สองแซมลงในระหว่างแถวของพืชแรกหรือพืชหลักเพื่อการอนุรักษ์ดินและ
น้ำ โดยการเพิ่มประชากรพืชที่ปกคลุมดิน ช่วยลดการระเหยน้ำจากผิวดินลดการเสี่ยงต่อความเสียหายของพืช
ที่จะเกิดขึ้นเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตต่อพื้นที่ให้สูงขึ้นทำให้โรคแมลงและวัชพืชน้อยลง
7) การปลูกพืชเหลื่อมฤดู (Relay cropping) เป็นการปลูกพืชต่อเนื่องคาบเกี่ยวกัน โดย
การปลูกพืชที่สองระหว่างแถวของพืชแรกในขณะที่พืชแรกให้ผลผลิตแต่ยังไม่แก่เต็มที่เพื่อการอนุรักษ์ดินและ
น้ำเพิ่มรายได้ต่อพื้นที่มากขึ้น โดยพืชแรกจะเป็นพืชพี่เลี้ยงให้กับพืชที่สอง เช่น ช่วยเป็นร่มเงา เป็นค้างหรือ
เป็นวัสดุคลุมดิน สามารถใช้พื้นที่ เวลา ความชื้น และปุ๋ยเคมีที่ตกค้างในดินให้เป็นประโยชน์กับพืชที่จะปลูก
ตามมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
8) การปลูกพืชระหว่างแถบไม้พุ่มบำรุงดิน (Alley cropping) เป็นการปลูกพืชระหว่าง
แถบไม้พุ่มบำรุงดินซึ่งปลูกตามแนวระดับเพื่อลดการชะล้างพังทลายของดินปรับปรุงโครงสร้างและความอุดม
สมบูรณของดินสามารถผลิตพืชผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการสร้างมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำที่
ลงทุนต่ำแต่มีประสิทธิภาพสูง สามารถนำไปใช้ในพื้นที่ที่มีความลาดเทต่ำถึงความลาดชันสูงร่วมกับมาตรการ
อนุรักษ์อื่น ๆ ได้
9) คันซากพืช (Contour trash line) เป็นการนำซากพืชที่เกิดจากการบุกเบิกพื้นที่หรือ
ที่เหลือหลังการเก็บเกี่ยวแล้วมาวางสุมให้สูงประมาณ 50 เซนติเมตร เป็นคันตามแนวระดับไวเป็นระยะ ๆ
ห่างกัน ประมาณ 20-40 เมตร หรือตามแนวคันดินกั้นน้ำเพื่อช่วยลดความเร็วของน้ำไหลบา และดักตะกอน
ดินและเพื่อใช้เศษเหลือของพืชให้เกิดประโยชนในการปรับปรุงบำรุงดินควรดำเนินการในขณะที่บุกเบิกพื้นที่
ใหม่และไม่มีทุนหรือเวลาเพียงพอในการทำคันดินแบบอื่น ซึ่งในอนาคตสามารถเปลี่ยนคันซากพืชให้เป็นแนว
คันดินได้
10) ไม้บังลม (Wind break) เป็นแถบต้นไม้หรือหญ้าสูงที่ปลูกเป็นระยะ ๆ โดยมี
ระยะห่างของแถบที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญเสียดิน สูญเสียน้ำา และผลเสียหายที่จะเกิดแก่พืชอัน
เนื่องมาจากแรงลมเพื่อควบคุมการสูญเสียดินเนื่องจากแรงลม ลดความเสียหายของพืช อาทิเช่น การฉีกหัก
ของกิ่งไม้และการร่วงหลนของผลจากแรงลม ลดอัตราการระเหยของน้ำจากผิวดิน ผิวน้ำของอ่างเก็บน้ า และ
จากการคายน้ำของพืชลดความเสียหายอันเนื่องมาจากละอองเกลือในพื้นที่ใกล้ทะเล และเพื่อเสริมแถบหญ้า