Page 18 - ผลกระทบจากการเผาตอซังและไม่ไถพรวนต่อสมบัติดินเพื่อ การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บนพื้นที่สูง จังหวัดเชียงใหม่ Effects of Burning and No-tillage on Soil Properties forMaize Production on Upland in Chiang Mai Province.
P. 18

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

                                                                                                            6

                          ขณะที่การไถพรวนมากเกินความจำเป็น เป็นการเร่งให้อินทรียวัตถุในดินสลายตัวอย่างรวดเร็ว

                   ก่อให้เกิดแผ่นแข็งที่ผิวหน้าดิน (soil crust) และชั้นดานไถพรวน (plow pan) (Van Doren and Triplett,
                   1979; Anusontpornperm et al., 2005; Elder and Lal, 2007) ทำให้อัตราการซาบซึมนํ้าของดินลดลง

                   เกิดน้ำไหลบ่าหน้าผิวดินเพิ่มขึ้น จึงทำให้เกิดการสูญเสียธาตุอาหารไปกับตะกอนดินโดยเฉพาะฟอสฟอรัสทำ

                   ให้ดินเสื่อมโทรมลงทั้งทางด้านกายภาพและความอุดมสมบรูณ์ ผลผลิตพืชในครั้งต่อๆ มาจึงลดลง (Pagliai et
                   al., 2004; Haene et al., 2008) ปัจจุบันมีการส่งเสริมให้ทำการเกษตรแบบไม่มีการไถพรวน (no tillage)

                   หรือการไถพรวนเพียงเล็กน้อย (minimum tillage) หรือการทิ้งเศษซากพืชบนผิวดินซึ่งจะช่วยลดระยะเวลา

                   ในการเตรียมดินและประหยัดค่าใช้จ่ายโดยการที่มีเศษซากพืชคลุมดินจะช่วยลดการระเหยของนํ้าที่ผิวดิน
                   และช่วยลดแรงปะทะของนํ้าฝน (รังสิต, 2538; Unger, 1994) เพิ่มความคงทนของเม็ดดินและความสามารถ

                   ในการอุ้มน้ำส่งผลให้สมบัติทางกายภาพของดินดีขึ้น (Dam et al., 2004) และลดการเกิดนํ้าไหลบ่าหน้าผิว
                   ดิน นอกจากนี้จะยังเพิ่มจำนวนช่องว่างขนาดใหญ่และเพิ่มความต่อเนื่องของช่องว่างจึงทำให้นํ้าซึมผ่านหน้า

                   ตัดดินเร็วขึ้น (ธวัชชัย และคณะ, 2537; Thomas et al., 1973; Tyler and Thomas, 1977) แต่ส่งเสริมให้

                   ไนโตรเจนและโพแทสเซียมเกิดการสูญหายโดยกระบวนการชะละลายได้ง่ายโดยเฉพาะในดินที่มีเนื้อหยาบ
                   (Angle et al., 1993) ในขณะที่ความเป็นประโยชน์ของไนโตรเจนอาจถูกจำกัดภายใต้ระบบที่มีเศษซากพืช

                   เหลือที่ผิวดินเนื่องจากเศษซากพืชที่ปกคลุมผิวดินหากมีค่าอัตราส่วนคาร์บอน-ไนโตรเจนสูง จะทำให้
                   ไนโตรเจนไม่เพียงพอต่อกิจกรรมของจุลินทรีย์ดิน จึงทำให้จุลินทรีย์เหล่านี้ใช้ไนโตรเจนที่มีอยู่ในดิน จึงส่งผล

                   ให้พืชแสดงอาการขาดไนโตรเจนในช่วงแรกของการเจริญเติบโต นอกจากนี้เศษซากพืชที่ปกคลุมผิวดินจะช่วย

                   ลดอุณหภูมิที่ผิวดินลง ส่งผลให้อัตราการงอกของเมล็ดตํ่า(Swan et al., 1994) อย่างไรก็ตามการปลูก
                   ข้าวโพดในดินเนื้อหยาบที่พบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมักประสบปัญหาเรื่องการขาดนํ้าได้

                   ง่ายของพืช และการสูญเสียธาตุปุ๋ยออกไปจากเขตรากพืชอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์

                   เพื่อศึกษาการตอบสนองของผลผลิตข้าวโพดภายใต้การไถพรวนดินแบบปกติและแบบอนุรักษ์ 3 วิธีการ และ
                   ผลของวิธีการไถพรวนที่มีต่อสมบัติดิน ซึ่งน่าจะเกิดประโยชน์ต่อการเลือกใช้วิธีการไถพรวนที่เหมาะสมสำหรับ

                   การปลูกข้าวโพดในดินเนื้อหยาบ โดยพิจารณาจากผลผลิตที่ได้รับและสมบัติดินที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น


                          4.การอนุรักษ์ดินและน้ำ

                            การอนุรักษ์ดินและน้ำคือ การใช้น้ำหรือการจัดการทรัพยากรดินและน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดย
                   ป้องกันการชะล้างการพังทลายของดิน และการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สามารถทำการเกษตรได้ตลอดไป

                            4.1 การอนุรักษ์ดิน เพื่อรักษาความสามารถในการผลิตของดินให้ยืนนานและเพิ่มผลผลิตต่อหน่วย

                   เนื้อที่ดิน
                                หลักการอนุรักษ์ดิน

                                 - ลดอัตราการกัดกร่อนของดิน
                                 - เพิ่มหรือรักษาระดับปริมาณของธาตุอาหารและอินทรียวัตถุในดินให้อยู่ในระดับที่

                   เหมาะสมปรับปรุงโครงสร้างของดินให้อยู่สภาพที่เหมาะสม

                                 - ทำให้สามารถใช้น้ำอย่างประหยัด
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23