Page 56 - เปรียบเทียบพันธุ์หญ้าแฝกและพืชคลุมดินต่อการฟื้นฟูและการปรับปรุงสมบัติทางกายภาพและเคมีของดิน
P. 56
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
38
มีปริมาณโพแทสเซียมลดลง ซึ่งรากหญาแฝกจะดึงเอาโพแทสเซียมที่อยูในระดับลึก ๆ ขึ้นมาสะสมในดินบน
สอดคลองกับกมลาภา (2556) ที่รายงานวา ดินที่ระดับความลึก 0-15 เซนติเมตร แปลงที่ปลูกหญาแฝกมี
แนวโนมปริมาณโพแทสเซียมเพิ่มขึ้น พันธุสุราษฎรธานีมีปริมาณโพแทสเซียมเพิ่มขึ้นมากที่สุด รองลงมาไดแก
ศรีลังกา สงขลา 3 มีสวนดินที่ระดับความลึกที่ 15-30 และ 30-50 เซนติเมตร ทุกตํารับการทดลองมีปริมาณ
โพแทสเซียมลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับดินกอนการทดลอง ซึ่งแตละพันธุของหญาแฝกดินที่ระดับความลึก 15-
30 เซนติเมตร มีความแตกตางกันโดยหญาแฝกพันธุสงขลา 3 และพระราชทานมีปริมาณโพแทสเซียมลดลง
มากที่สุด สวนดินที่ระดับความลึกที่ 30-50 เซนติเมตร ทุกพันธุมีปริมาณโพแทสเซียมไมแตกตางกันทางสถิติ
พันธุสงขลา 3 มีปริมาณโพแทสเซียมต่ําสุด นอกจากนี้โพแทสเซียมที่เปนองคประกอบของซากพืชก็ถูก
ปลดปลอยออกมาในกระบวนการสลายตัวดวย (ยงยุทธ และคณะ, 2551) ซึ่งธาตุอาหารที่สําคัญในดินหลาย
ชนิดบริเวณหญาแฝก พืชคลุมดิน เนื่องจากจุลินทรียในดินทําหนาที่ยอยสลาย และแปรสภาพสารประกอบ
อินทรียในดินและชิ้นสวนของเศษซากพืชใหอยูในรูปที่เปนประโยชนตอพืช (กมลาภา, 2552) นอกจากนี้อาจจะ
เกี่ยวของกับปริมาณอินทรียวัตถุในดินที่เพิ่มลงไปในดิน ทําใหดินมีคาความจุแลกเปลี่ยนแคตไอออนสูง
โพแทสเซียมที่เปนประโยชนถูกดูดซับไวไดมาก (กิ่งกานท, 2552) ถึงแมวาในพื้นที่การทดลองที่มีการปลูก
หญาแฝกบางพันธุจะมีปริมาณโพแทสเซียมลดลงแตยังคงมีปริมาณโพแทสเซียมอยูในระดับที่สูงมาก เนื่องจาก
สมบัติทางเคมีของชุดดินวังสะพุงมีปริมาณโพแทสเซียมที่เปนประโยชนระดับสูง
จากผลการวิเคราะหสมบัติทางเคมีของดินหลังการทดลองของชุดดินวังสะพุง ตํารับ
การทดลองตาง ๆ มีอิทธิพลตอสมบัติทางเคมี ทําใหสมบัติทางเคมีมีการเปลี่ยนแปลงขึ้น โดยเฉพาะปริมาณ
อินทรียวัตถุในดินที่เพิ่มขึ้น ดินที่ระดับความลึก 0-50 เซนติเมตร พื้นที่ที่มีการปลูกหญาแฝกลุมพันธุศรีลังกา
พันธุสงขลา 3 มีปริมาณอินทรียวัตถุในดินมากที่สุด รองลงมาไดแก หญาแฝกดอนพันธุรอยเอ็ด แตถาพิจารณา
เปรียบเทียบกลุมหญาแฝกตั้งแตระดับความลึก 0-30 เซนติเมตร กลุมหญาแฝกดอนและหญาแฝกลุม ไมมี
ความแตกตางกันทางสถิติ มวลชีวภาพรากของพันธุหญาแฝกอาจสงผลตอสมบัติทางเคมี เชนหญาแฝกลุมพันธุ
สงขลา 3 มีมวลชีวภาพรากเฉลี่ยรวม 2 ป สูงสุด 223 กิโลกรัมตอไร ทําใหปริมาณอินทรียวัตถุในดินมีแนวโนม
เพิ่มขึ้น ทั้งนี้การนําใบหญาแฝกที่ไดจากการตัดมาใชคลุมดินนี้ จะเปนการชวยใหเกิดสมดุลทางธรรมชาติ ไดแก
การเพิ่มอินทรียวัตถุ และธาตุอาหารแกดิน เพิ่มปริมาณจุลินทรียและสัตวในดิน ทําใหดินมีชีวิต หนาดินเกิด
ความอุดมสมบูรณ แตอยางไรตามถาหากมีการนําใบหญาแฝกไถกลบลงดินจะสามารถยอยสลายและปลด
ปลอยธาตุอาหารไดมากยิ่งขึ้น จากรายงานของประไพ และคณะ (2541) ไดศึกษาการยอยสลายและการ
ปลดปลอยธาตุอาหารพืชจากใบหญาแฝก พบวาหากมีการฝงหญาแฝกลงในดินทําใหหญาแฝกสามารถยอย
สลายไดเร็วและมากกวาวางหญาแฝกไวบนดิน และยังปลดปลอยธาตุอาหารอนินทรีย ไนโตรเจน ฟอสฟอรัสที่
เปนประโยชนและโพแทสเซียมไดมากกวา