Page 23 - แนวทางการจัดทำแผนที่แสดงความลาดชันของพื้นที่จากข้อมูลแบบจำลองระดับสูงเชิงเลขด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์
P. 23
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
15
ทักษะความช านาญด้านการส ารวจรังวัดเป็นอย่างดี นอกจากนี้อาจมีข้อจ ากัดในการเข้าถึงพื้นที่ของ
เจ้าหน้าที่ทางด้านกฎหมายและสภาพภูมิประเทศที่เป็นอุปสรรคบางฤดูกาลอีกด้วย
2.2.2 การรังวัดจากแผนที่และเส้นชั้นความสูง โดยการวัดระยะทางระหว่างต าแหน่งหรือจุด
ที่ต้องการหาค่าความลาดชันบนแผนที่โดยระยะทางที่วัดได้เป็นระยะบนแผนที่ต้องน าไปเทียบอัตราส่วน
ตามมาตราส่วนของแผนที่นั้นเพื่อแปลงให้เป็นระยะทางราบ (Horizontal Distance) ในภูมิประเทศ
ส าหรับค่าความสูงต่างระหว่างจุดที่พิจารณานั้น สามารถค านวณได้จากเส้นชั้นความสูงที่ปรากฏบนแผนที่
จากนั้นจึงน าผลที่ได้มาค านวณหาค่าความลาดชันเฉลี่ยของพื้นที่
ตัวอย่างการหาค่าความลาดชันของพื้นที่จากจุด A ถึงจุด B ตามภาพที่ 3-7 โดยวัดระยะบน
แผนที่จากจุด A ถึง จุด B ได้เท่ากับ 7 เซนติเมตร คิดเป็นระยะทางราบในภูมิประเทศเท่ากับ 280 เมตร
(ระยะบนแผนที่ 1 เซนติเมตรเท่ากับระยะในภูมิประเทศ 40 เมตร) ค่าความสูงต่างระหว่างจุด A กับ จุด B
เท่ากับ 28 เมตร (432 – 404 เมตร) ดังนั้นค่าความลาดชันเฉลี่ยของพื้นที่จากจุด A ถึง จุด B คิดเป็น
เปอร์เซ็นต์ ได้ดังนี้
ค่าความต่างของระดับความสูงของจุด A กับจุด B
ความลาดชัน (Slope) = ระยะทางราบระหว่างจุด A กับจุด B X 100
40 X 100
200
=
ความลาดชันของพื้นที่ = 20 เปอร์เซ็นต์
ภาพที่ 2-3 การค านวณค่าความลาดชันของพื้นที่โดยวิธีการรังวัดจากแผนที่และเส้นชั้นความสูง