Page 28 - การจัดการปุ๋ยหมักและปุ๋ยชีวภาพร่วมกับน้ำหมักชีวภาพ เพื่อเพิ่มผลผลิตมะละกอฮอลแลนด์ในดินทราย
P. 28

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน





                                                                                                       18


                       0.08  มิลลิกรัมต่อลิตร  ตามล าดับ  โดยกรดอะมิโนมีบทบาทส าคัญต่อพืช  เช่น  ไกลซีนเป็น
                       องค์ประกอบพื้นฐานในการสร้างเนื้อเยื่อพืช  และการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ท าให้การสังเคราะห์แสง
                       เพิ่มขึ้น  เมตไทโอนีนเป็นสารตั้งต้นในการผลิตฮอร์โมน  และโปรลีนลดสภาวะความเครียดในต้นพืช
                       (Garcia et al., 2011)  (ดังตารางภาคผนวกที่ 5)

                       2. สมบัติทางเคมีดินก่อนและหลังการทดลอง
                              ผลการวิเคราะห์ตัวอย่างดินก่อนการทดลองที่ระดับความลึก 0 -15 เซนติเมตร  พบว่า  ดินมี
                       อินทรียวัตถุต่ าเท่ากับ 0.64 เปอร์เซ็นต์  มีปริมาณฟอสฟอรัสในดินต่ าเท่ากับ 9.00 มิลลิกรัมต่อ
                       กิโลกรัม  ส่วนปริมาณโพแทสเซียมในดินสูงเท่ากับ 74.00 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม  มีปริมาณแคลเซียม

                       และแมกนีเซียมในดินต่ าเท่ากับ 816.00 และ 131.00 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม  ดังตาราง ที่ 1
                              หลังการทดลองได้มีการเก็บตัวอย่างดินทุกแปลงหลังเก็บเกี่ยวผลผลิตมะละกอ  ที่ระดับความ
                       ลึก 0 – 15 เซนติเมตร  โดยสุ่มเก็บบริเวณโคนต้น 2 จุด ห่างจากต้น 30  เซนติเมตร  แล้วน ามา
                       รวมกันวิเคราะห์ปริมาณธาตุอาหารในดิน  พบว่า

                              2.1 อินทรียวัตถุในดิน  จากการทดลองพบว่า  อินทรียวัตถุในดินเพิ่มขึ้นมีความแตกต่างกัน
                       อย่างมีนัยส าคัญยิ่งทางสถิติจากการใช้ปุ๋ยหมักเพียงอย่างเดียวในต ารับที่ 4 หรือใส่ร่วมกับปุ๋ยเคมี
                       ครึ่งหนึ่งตามค าแนะน า  ปุ๋ยเคมีอัตราตามค าแนะน า (ต ารับที่ 8 และ 6)  มีอินทรียวัตถุในดินเพิ่มขึ้น

                       2.70 2.49 และ 2.32 เปอร์เซ็นต์  ตามล าดับ  สูงกว่าต ารับการทดลองที่ใช้ปุ๋ยชีวภาพ  ทั้งที่ใช้ปุ๋ย
                       ชีวภาพเดี่ยว ๆ หรือใส่ร่วมกับปุ๋ยเคมีอัตราตามค าแนะน า  หรือใส่ร่วมกับปุ๋ยเคมีอัตราครึ่งหนึ่งตาม
                       ค าแนะน า (ต ารับที่ 3 5 และ 7)  ทุกต ารับการทดลองที่มีการใช้ปุ๋ยชีวภาพมีอินทรียวัตถุในดิน  หลัง
                       สิ้นการทดลองมีปริมาณเพิ่มขึ้นอยู่ระหว่าง 0.93 – 1.23 เปอร์เซ็นต์  สูงกว่าต ารับที่มีการใส่ปุ๋ยเคมี
                       เพียงอย่างเดียว (ต ารับที่ 2)  และไม่ใส่ปัจจัยใดๆ (ต ารับที่ 1) มีปริมาณอินทรียวัตถุในดิน 0.66 และ

                       0.63 เปอร์เซ็นต์  ตามล าดับ  ดังตารางที่ 1
                              จากการทดลองพบว่า  ต ารับที่มีการใช้ปุ๋ยหมัก  หรือใส่ร่วมกับปุ๋ยเคมี  มีอินทรียวัตถุหลัง
                       สิ้นสุดการทดลองสูงกว่าต ารับที่ใช้ปุ๋ยชีวภาพ  หรือใส่ร่วมกับปุ๋ยเคมี  ทั้งนี้เนื่องมาจากการทดลองมี

                       ปริมาณการใช้ปุ๋ยหมัก  อัตรา 20 กิโลกรัมต่อต้น  มากกว่าการใช้ปุ๋ยชีวภาพ 5 กิโลกรัมต่อต้น  ส่งผล
                       ให้ดินหลังการทดลองต ารับที่ใช้ปุ๋ยหมักมีอินทรียวัตถุสะสมในดินสูงกว่าการใช้ปุ๋ยชีวภาพ  สอดคล้อง
                       กับการทดลองของ Dinesh et al. (2010) ทดสอบการใช้ปุ๋ยหมักร่วมกับการใส่ปุ๋ยเคมี  การใช้ปุ๋ย
                       ชีวภาพ  และปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียวที่มีผลต่อการปลูกขมิ้นชัน  โดยก าหนดให้มีปริมาณไนโตรเจน

                       ฟอสฟอรัส  และโพแทสเซียมอัตรา 9.60  8.00  และ 19.20  กิโลกรัมต่อไร่  ในทุกต ารับการทดลอง
                       พบว่า  ต ารับการใช้ปุ๋ยหมัก  ร่วมการใส่ปุ๋ยเคมีมีอินทรียวัตถุเพิ่มมากที่สุด 2.17  เปอร์เซ็นต์
                       ไม่แตกต่างจากการใช้ปุ๋ยชีวภาพมีอินทรียวัตถุ 1.94  เปอร์เซ็นต์  เปรียบเทียบกับการใส่ปุ๋ยเคมีอย่าง
                       เดียวมีอินทรียวัตถุ  1.69  เปอร์เซ็นต์  ส าหรับการปลดปล่อยไนโตรเจนจากการใช้ปุ๋ยหมัก  ร่วมกับ
   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33