Page 16 - ผลผลิตของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ตอบสนองต่อการใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินที่ปลูกในชุดดินนครพนม จังหวัดบึงกาฬ
P. 16
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
8
กิโลกรัมต่อไร่ ให้ผลผลิตข้าวโพดต่ ากว่าการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดเม็ดทั้ง 2 วิธี แต่การใส่ปุ๋ยชนิดเม็ดทั้ง
อัตรา 60 และ 120 กิโลกรัมต่อไร่ ให้ผลผลิตข้าวโพดไม่แตกต่างกัน แสดงให้เห็นว่าการใช้ปุ๋ยอินทรีย์
ชนิดอัดเม็ดมีประสิทธิภาพดีกว่าการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดผง
Donatus et al. (2011) ศึกษาเกี่ยวกับการจัดการธาตุอาหารส าหรับข้าวโพดหวานใน
ไนจีเรีย โดยท าการทดลองใส่ปุ๋ยคอกมูลสัตว์ปีก 4 อัตรา ได้แก่ 0 5 10 และ 15 ตันต่อเฮกแตร์ และ
การใส่ปุ๋ยไนโตรเจน 4 อัตรา ได้แก่ 0 40 80 และ 120 กิโลกรัม N ต่อเฮกแตร์ พบว่า อัตราการใช้ปุ๋ย
คอกมูลสัตว์ปีก และการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนอัตรา 80 กิโลกรัม N ต่อเฮกแตร์ มีผลให้ความสูง ดรรชนี
พื้นที่ใบและผลผลิตสูงขึ้นอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ โดยการใช้ปุ๋ยไนโตรเจน อัตรา 15 ตันต่อเฮกแตร์
ร่วมกับปุ๋ยไนโตรเจนอัตรา 80 กิโลกรัม N ต่อเฮกแตร์ ส่งผลให้มีผลผลิตเมล็ดสูงที่สุด
อนุสรณ์ (2544) ศึกษาปริมาณอินทรียวัตถุและไนโตรเจนทั้งหมดในดินหลังเก็บเกี่ยวข้าวโพด
พบว่า ดินที่ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ในรูปปั้นเม็ดอัตรา 4 ตันต่อไร่ มีปริมาณอินทรียวัตถุ และไนโตรเจนทั้งหมด
สูงกว่าดินที่ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ในรูปไม่ปั้นเม็ดอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ ส าหรับปริมาณฟอสฟอรัสและ
โพแทสเซียมขึ้นอยู่กับอัตราการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ โดยพบว่า เมื่อใส่ปุ๋ยอินทรีย์อัตรา 4 ตันต่อไร่ ดินที่ใส่
ปุ๋ยอินทรีย์ในรูปปั้นเม็ดมีปริมาณฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมตกค้างอยู่ในดินสูงกว่าการใส่ปุ๋ยอินทรีย์
ในรูปไม่ปั้นเม็ดอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ
นิภา (2540) ศึกษาผลของการปลูกถั่วลิสงและถั่วปุ๋ยพืชสดแซมข้าวโพดต่อผลผลิตข้าวโพด
และสมบัติดิน พบว่า ปุ๋ยอินทรีย์มีผลต่อผลผลิตข้าวโพดโดยไม่ได้มาจากการเติมธาตุอาหารให้แก่ดิน
เพียงอย่างเดียว โดยการปลูกพืชแซมในปีที่ 1 และ 2 ไม่มีผลต่อผลผลิตข้าวโพด ในขณะที่ปีที่ 3 มีผล
ต่อผลผลิตข้าวโพดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ แต่การใส่ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมีท าให้สมบัติ
ทางกายภาพของดินเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากท าให้ดินมีลักษณะร่วนซุยเหมาะต่อการเจริญเติบโตของ
พืช รากพืชสามารถแทงลงไปในดินได้ง่าย ส่งผลให้การเคลื่อนที่ของน ้าและอากาศเกิดได้ดีขึ้น
ศิริเนตร (2545) ศึกษาเรื่องการใช้มูลไก่เป็นปุ๋ยฟอสฟอรัสส าหรับข้าวโพดในดินออกซิซอลส์
ชุดดินท่าใหม่ โดยเปรียบเทียบผลการใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัสในรูปปุ๋ยเคมีฟอสฟอรัส มูลไก่และปุ๋ยเคมี
ฟอสฟอรัสร่วมกับมูลไก่ อัตรา 50 100 และ 200 มิลลิกรัม P O ต่อไร่ ต่อการเจริญเติบโตผลผลิต
2 5
และการดูดใช้ฟอสฟอรัสของข้าวโพด พบว่า การใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัสทั้งในรูปปุ๋ยเคมีฟอสฟอรัสมูลไก่และ
ปุ๋ยเคมีฟอสฟอรัสร่วมกับมูลไก่มีผลท าให้การเจริญเติบโต น้ าหนักแห้งตอซัง ผลผลิตฝักและการดูดใช้
ธาตุอาหารฟอสฟอรัสของข้าวโพดที่ปลูกในดินออกซิซอลส์ ชุดดินท่าใหม่ สูงกว่าไม่ใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัส
อย่างมีนัยส าคัญยิ่ง เมื่อเพิ่มอัตราการใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัสข้าวโพดมีความสูงเส้นรอบวงล าต้น น้ าหนักแห้ง
ผลผลิตและการดูดใช้ธาตุอาหารฟอสฟอรัสเพิ่มขึ้น ข้าวโพดที่ได้รับปุ๋ยฟอสฟอรัสในรูปมูลไก่และในรูป
ปุ๋ยเคมีฟอสฟอรัสร่วมกับมูลไก่มีการเจริญเติบโต ผลผลิต ปริมาณฟอสฟอรัสทั้งหมดสูงกว่าข้าวโพดที่
ได้รับปุ๋ยฟอสฟอรัสในรูปปุ๋ยเคมีและการใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัสในรูปของมูลไก่มีผลข้างเคียงต่อการ
เปลี่ยนแปลงพีเอช (pH) และค่าการน าไฟฟ้า (EC) หรือความเค็มของดินน้อยมาก
ลักษณะของกลุ่มชุดดินที่ 6 มีเนื้อดินเป็นพวกดินเหนียวละเอียด ดินลึกมาก เกิดจากการทับ
ถมของตะกอนล าน้ าในพื้นที่ราบลุ่มหรือพื้นที่ตะพักล าน้ าระดับต่ า สภาพพื้นที่ราบเรียบถึงค่อนข้าง
ราบเรียบ มีความลาดชันน้อยกว่าร้อยละ 2 มีการพัฒนาการของดินมานาน การระบายน้ าของดินเลว
หรือค่อนข้างเลว มีน้ าท่วมขังในฤดูฝน ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดมากถึงเป็นกรดจัด มีค่าความเป็นกรด