Page 13 - ผลผลิตของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ตอบสนองต่อการใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินที่ปลูกในชุดดินนครพนม จังหวัดบึงกาฬ
P. 13
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
5
เป็นเส้นตรงปลายแหลม ยาวประมาณ 30-100 ซม. เส้นกลางของใบจะเห็นได้ชัด ตรงขอบใบมีขน
อ่อนๆ ลักษณะของใบรวมทั้งสีของใบแตกต่างกันไป แล้วแต่ชนิดของพันธุ์ บางพันธุ์ใบสีเขียว บางพันธุ์
ใบสีม่วงและบางพันธุ์ใบลาย จ านวนใบก็เช่นเดียวกันอาจมีตั้งแต่ 8-48 ใบ (Wellhausen and
Edwin John, 1952) ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียอยู่ในต้นเดียวกัน ช่อดอกตัวผู้อยู่ส่วนยอดของล าต้น
ช่อดอกตัวเมียอยู่ต่ าลงมาอยู่ระหว่างกาบของใบ และล าต้น ช่อดอกตัวผู้ (tassel) อยู่ตอนบนสุดของ
ล าต้น ดอกตัวผู้ดอกหนึ่งจะมีอับเกสร (anther) 3 อับ แต่ละอับยาวประมาณ 6 มิลลิเมตร และมี
ละอองเกสร (pollen grain) ประมาณอับละ 2,500 เกสร ช่อดอกตัวผู้ของข้าวโพดธรรมดา 1 ต้น
อาจจะผลิตละอองเกสรได้ถึง 25,000,000 เกสร หรือเฉลี่ยแล้วมีละอองเกสรมากกว่า 25,000 เกสร
ที่จะไปผสมเมล็ดบนฝักซึ่งมีเมล็ดประมาณ 800-1,000 เมล็ด ส่วนดอกตัวเมียอยู่รวมกันเป็นช่อ
เกิดขึ้นตอนข้อกลาง ๆ ล าต้น ฝักเกิดจากดอกตัวเมียที่เจริญเติบโตแล้ว ฝักอ่อนจะมีสีเขียว พอแก่เป็น
สีนวล (พิเชษฐ์ และคณะ, 2554)
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์ไพโอเนีย 30B80 มีลักษณะประจ าพันธุ์ คือ อายุการเก็บเกี่ยว เก็บสด
100 วัน เก็บแห้ง 120 วัน ล าต้นและรากแข็งแรง ไม่หักล้มง่าย ผลผลิตเฉลี่ย 1,440–1,780 กิโลกรัม
ต่อไร่ ความชื้นในเมล็ดต่ า ทนแล้ง ปรับตัวได้ทุกสภาพดิน (ไพโอเนีย, 2557)
สมชาย และคณะ (2547) ได้พัฒนาต้นแบบการตรวจสอบขั้นตอนการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
หลังนาแบบบูรณาการ สามารถพัฒนาระบบการผลิตจนได้ผลผลิตไม่ต่ ากว่า 1,000 กิโลกรัมต่อไร่
และช่วยเพิ่มปริมาณการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการ
เลี้ยงสัตว์ โดยมีขั้นตอนการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนาแบบบูรณาการ ซึ่งเริ่มแรกท าการเลือกพื้นที่
นา (3-6 เดือนก่อนปลูก) ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ต่ าและระบายน้ ายาก ในกรณีที่พื้นที่นาไม่สม่ าเสมอ
จ าเป็นต้องปรับพื้นที่ให้เรียบก่อนปลูก เพื่อสะดวกในการให้น้ า และระบายน้ าออกจากแปลงเพื่อ
หลีกเลี่ยงปัญหาน้ าท่วมขังในแปลง ควรเป็นพื้นที่นาที่หน้าดินลึกไม่ต่ ากว่า 30 เซนติเมตร เพื่อให้ราก
ข้าวโพดสามารถเจริญเติบโต ดูดใช้น้ า และอาหารจากดินได้ดี รวมทั้งสามารถอุ้มน้ าไว้ได้ดี ส่วนใน
กรณีที่ดินนาเป็นกรดหรือกรดจัด ควรปรับปรุง pH ของดินก่อนท านาหรือก่อนปลูกข้าวโพดด้วยการ
ใส่ปูนขาว ปูนมาร์ล หรือหินฟอสเฟต ทั้งนี้เนื่องจากข้าวโพดเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดี ในดินที่มี pH
สูงกว่า 5.5 นอกจากนี้การเลือกชนิดของดินที่จะใช้ปลูกข้าวโพดนับว่ามีความส าคัญอย่างมาก ซึ่งดิน
นาที่เหมาะส าหรับการปลูกข้าวโพด ได้แก่ ดินร่วน ดินร่วนเหนียว หรือดินร่วนทราย มีการระบาย
น้ าดี และมีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร ในการเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ (3-4 สัปดาห์ก่อนปลูก) ควร
เลือกใช้พันธุ์ข้าวโพดลูกผสม โดยเฉพาะลูกผสมเดี่ยว ซึ่งให้ผลผลิตสูงเมื่อปลูกในสภาพนา นอกจากนี้
ลักษณะพันธุ์ข้าวโพดที่เหมาะสมต่อพื้นที่นา คือ มีล าต้น และระบบรากแข็งแรง ต าแหน่งฝักต่ า และ
ต้นเตี้ยไม่หักล้มง่าย ทั้งนี้ควรตรวจสอบความงอกของเมล็ดพันธุ์ก่อนปลูก และเลือกเมล็ดพันธุ์ที่มี
คุณภาพดี คือ มีความงอกมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และมีความแข็งแรงสูง ถ้าปลูกข้าวโพดฤดูแล้งโดย
อาศัยความชื้นที่หลงเหลืออยู่ในดินหลังการเก็บเกี่ยวข้าว ซึ่งเป็นภาวะที่ดินมีความชื้นค่อนข้างจ ากัดจึง
ต้องการเมล็ดข้าวโพดที่มีความงอกและความแข็งแรงสูง หากใช้เมล็ดพันธุ์คุณภาพต่ า ความงอกไม่ดี
อาจท าให้ต้องตัดสินใจปลูกใหม่ ซึ่งท าให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องให้น้ า เตรียมดิน และ
ปลูกใหม่อีกครั้งหนึ่ง ท าให้การปลูกล่าช้ากว่าก าหนด ส่งผลให้การออกดอกตรงกับช่วงที่อุณหภูมิสูง
และเก็บเกี่ยวในช่วงมีฝนชุก ท าให้ได้ผลผลิตต่ า และคุณภาพเมล็ดไม่ดี ส่วนการเตรียมดิน (1-2