Page 10 - บทบาทของหญ้าแฝกในการบำบัดสารปนเปื้อนในน้ำและสิ่งแวดล้อม
P. 10
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
5
ใบมีความยาว 45-100 เซนติเมตร กว้าง 0.6-1.2 เซนติเมตร ด้านหลังใบมีลักษณะโค้งมนถึงเหลี่ยม
สีเขียว เนื้อใบค่อนข้างเนียน มีไขเคลือบมากท าให้ดูมัน ท้องใบออกสีขาวซีดกว่าด้านหลังใบ หญ้าแฝกลุ่ม
ที่มีอายุประมาณ 1 ปี จะมีรากหยั่งลึกได้มากกว่า 1 เมตร ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับสภาพของดิน และความ
อุดมสมบูรณ์ของต้น ในสภาพธรรมชาติดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ าดี หญ้าแฝกจะให้รากยาวที่สุด
(กรมพัฒนาที่ดิน, 2546) ตัวอย่างเช่น หญ้าแฝกลุ่มพันธุ์สุราษฎร์ธานีที่มีอายุได้ 7 เดือน ส่วนของต้นสูง
1.50 เมตร ที่ปลูกในพื้นที่ที่เป็นดินสีแดงชั้นปนร่วน และชั้นล่างเหนียว พบว่ามีความยาวของราก
ตามแนวดิ่งถึง 3.10 เมตร และรากประสานกันอย่างหนาแน่น (กรมพัฒนาที่ดิน, 2548) ส าหรับพันธุ์
หญ้าแฝกลุ่มที่แนะน าในการอนุรักษ์ดินและน้ าในพื้นที่ต่างๆ ตามโครงการรณรงค์การปลูกหญ้าแฝก
ของกรมพัฒนาที่ดิน มีทั้งหมด 4 พันธุ์ ซึ่งมีรายละเอียดและลักษณะประจ าพันธุ์ ดังนี้
1) พันธุ์ศรีลังกา เป็นสายพันธุ์ที่เจริญเติบโตดีในสภาพพื้นที่เป็นดินลูกรัง อากาศ
หนาวเย็น แตกกอประมาณ 10 ต้นต่อกอ เส้นผ่าศูนย์กลางกอ 11 เซนติเมตร สูง 101 เซนติเมตร
แตกกอค่อนข้างหลวม หน่อกลม ยืดปล้องเร็ว โคนกอเล็ก ใบแก่ค่อนข้างเล็ก ท้องใบสีขาวน้อย
ใกล้เคียงไปทางด้านใบหญ้าแฝกดอน ดอกมีสีม่วง หลังจากปลูกขยายพันธุ์ง่ายในสภาพที่มีความชื้นสูง
แต่จะไม่ต้านทานโรคโคนเน่า แสดงดังภาพที่ 1
ภาพที่ 1 หญ้าแฝกลุ่มพันธุ์ศรีลังกา
2) พันธุ์ก าแพงเพชร 2 เป็นสายพันธุ์ที่เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่เป็นดินทรายถึง
ดินลูกรัง แตกกอ 18 ต้นต่อกอ เส้นผ่าศูนย์กลางกอ 8 เซนติเมตร สูง 94 เซนติเมตร แตกกอ
ค่อนข้างหลวม หน่อกลมค่อนข้างเล็ก ยืดปล้องเร็วทรงพุ่มกาง ใบสีเขียวเข้ม ท้องใบสีขาว ดอกสีม่วงแดง