Page 209 - การกำหนดเขตการใช้ที่ดินสำหรับปลูกข้าวหอมมะลิของประเทศไทย
P. 209
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
5-3
(2)จุดอ่อน
- ผลผลิตค่อนข้างตํ่า
- ปลูกในดินอุดมสมบูรณ์สูง ต้นอ่อนจะล้มง่าย
- ไม่เหมาะในพื้นที่อุดมสมบูรณ์และลุ่มตํ่าในภาคกลาง
(3)โอกาส
- ราคาข้าวจะถูกกําหนดจากปริมาณความต้องการและปริมาณข้าวในตลาดโลก
- จากข้อตกลงทางการค้าภายใต้ WTO ไทยมีโอกาสที่ส่งออกข้าวเข้าไปตลาดโลกได้มากขึ้น
- เป็นข้าวที่สามารถให้ราคาและตลาดต้องการมาก อันจะเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่ม
มูลค่าทางรายได้ให้กับเกษตรกรที่เพาะปลูก
-นโยบายการเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวหอมมะลิ ในเขตปฏิรูปที่ดินนับเป็นมาตรการ
เสริมสร้างเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินในเชิงการจัดการทั้งระบบ
ส่งเสริมการพัฒนาการผลิตข้าวตามระบบเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP)
- การกําหนดศักยภาพพื้นที่ สามารถผลิตข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานเป็นการสร้าง
จุดแข็งให้กับสินค้าข้าวไทยให้สามารถแข่งขันได้ อันจะนําไปสู่การเพิ่มรายได้ของเกษตรกรให้สูงขึ้น
(4)ข้อจํากัด
- พันธุ์ข้าวที่แนะนําให้เกษตรกรปลูกยังไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่การปลูกได้อย่าง
เหมาะสมทั่วถึง
- ผลผลิตต่อไร่ของข้าวหอมมะลิอยู่ในระดับตํ่า และการเพิ่มผลผลิตทําได้ยากเนื่องจาก
ข้อจํากัดของพื้นที่ปลูกไม่สามารถควบคุมนํ้าได้รวมทั้งสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
- เทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสม (Good Agriculture Practice : GAP) ยังไม่มีรายละเอียด
มากพอที่จะใช้แนะนําเฉพาะพื้นที่ หรือชนิดพันธุ์อย่างชัดเจน ต้องมีการวิจัยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
- ข้าวหอมมะลิไทยเป็นที่ต้องการของตลาด มักจะเกิดการปลอมปนข้าวชนิดอื่นทั้งขาย
ภายในประเทศและส่งออก จะส่งผลต่อคุณภาพและมาตรฐานของข้าวหอมมะลิได้
2) พันธุ์ข้าวหอมมะลิ
ตามมาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยได้แก่ พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และ กข15 เป็นข้าวไวต่อช่วง
แสง ระยะเก็บเกี่ยวประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป เกษตรกรนิยมปลูกเป็นข้าวนาปีปัจจุบันได้มี
การทดลองปลูกเป็นข้าวนาปรังบางส่วน แต่มีข้อจํากัดต้องปลูกในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น