Page 73 - หลักการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในเขตพัฒนาที่ดิน

68

(3) ขนาดของพื้นที่ลุมน้ําตอเขตพัฒนาที่ดิน รูปรางของพื้นที่ลุมน้ํา ความสูงของพื้นที่ลุมน้ํา

(4) ความลาดเท การวางตัวของพื้นที่ลุมน้ําตอเขตพัฒนาที่ดิน
(5) โครงสรางระบบระบายน้ํา ชนิดของระบบและความมากนอยของทางระบายน้ําลน เปนตน

9.2. การวัดปริมาณน้ําไหลบา มีอยู 2 ประการดวยกัน คือ
9.2.1. ในกรณีที่ทราบพื้นที่หนาตัดของลําน้ํา และมีการวัดความเร็วในการไหลของน้ําที่ระดับตาง

ๆ และในระยะเวลาเทาๆ กัน ตลอดพื้นที่หนาตัดของลําน้ํา ความลึกที่ใชวัดความเร็วในการไหลของน้ํา

ตามปกติใชความลึก 0.2 และ 0.8 เมตรของความลึกทั้งหมด ณ จุดที่กําหนด โดยใชเครื่องวัดความเร็วในการ
ไหลของน้ํา

9.2.2. การวัดน้ําไหลบาที่มีลําน้ําไมใหญนัก ทําไดโดยบังคับน้ําใหไหลผานฝายหรือทอที่ออกแบบ

โดยเฉพาะและบันทึกขอมูล

สูตรขั้นพื้นฐาน ที่ใชในการออกแบบโครงสรางระบบอนุรักษดินและน้ํา

(1) การประเมินน้ําไหลบา โดย Rational Method
ก. อัตราของน้ําไหลบา (q)

สูตร q = CiA ลูกบาศกเมตรตอวินาที
360

ในที่นี้ q = อัตราของน้ําไหลบาสูงสุด มีหนวยเปนลูกบาศกเมตรตอวินาที

C = สัมประสิทธิ์ของน้ําไหลบา

i = ความรุนแรงของน้ําฝน มีหนวยเปนมิลลิเมตรตอชั่วโมง

A = พื้นที่ของบริเวณรับน้ํา มีหนวยเปน เฮกตาร

ถาแปลงสูตรใหพื้นที่มีหนวยเปนไร ก็จะไดสูตรดังนี้ คือ

สูตร q = CiA ลูกบาศกเมตรตอวินาที
360 ×6.25

ข. ปริมาณของน้ําไหลบา (Q)

สูตร Q = CIA
ในที่นี้ Q = ปริมาณน้ําไหลบา มีหนวยเปนลูกบาศกเมตร

C = สัมประสิทธิ์ของน้ําไหลบา

I = ปริมาณน้ํา