Page 27 - องค์ความรู้สู่ปีดินสากล 2558
P. 27
ศูนยศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดําริเปนสวนหนึ่งในหลายๆ ภารกิจดานการพัฒนา
พื้นที่ดิน ที่พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว ทรงไดรับรางวัลนักวิทยาศาสตรดินเพื่อมนุษยธรรม และอีกหลายๆ
รางวัล หากไปศึกษาคนควาเรื่องศูนยศึกษาการพัฒนาทั้ง 6 ศูนยใหดีก็จะเห็นวา ทั้ง 6 ศูนยเปนเรื่องของการ
พัฒนาลุมน้ํายอยๆ ทุกแหง ใหมีน้ํา มีปาตนน้ํา มีการพัฒนาทรัพยากรดิน และมีการบริหารจัดการ ไมวาจะ
ปลูกพืช เลี้ยงสัตว และการประมง ทุกศูนยฯ จะเหมือนกัน เพียงแตสภาพปญหาแตกตางกัน เชน
ทางภาคเหนือซึ่งมีปญหาปาตนน้ํา ตองเนนการปลูกปา ที่สกลนครมีสภาพปาเสื่อมโทรม ตองสงวนปา
เพิ่มแหลงน้ําและแกปญหาดินเค็มบางสวนที่พิกุลทองดินเปนพรุ ตองมีการแยกใหชัดวาตรงไหนที่ตองอนุรักษไว
หามแตะตอง และตรงไหนที่ตองพัฒนา ตัวอยางที่เห็นชัดเจนคือที่บานยูโย ซึ่งทานอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน
คนปจจุบัน ไดบรรยายพิเศษในคราวที่แลว ที่หวยทรายคือปาเกาที่เปนเขตราชนิเวศ ตอนหลังก็ถูกบุกรุกปลูก
สัปปะรด ดินก็ตื้น ดินเสื่อมโทรม ที่คุงกระเบนเปนการพัฒนาชายฝงที่เปนแหลงตนกําเนิดสัตวน้ําจะดูแลรักษา
อยางไร ที่เขาหินซอนนี่คือพลิกทะเลทราย จะตองฟนฟูสภาพดินอยางไรใหทําการเกษตรได เปนตน
การบริหารศูนยศึกษาการพัฒนาเขาหินซอน แรกๆ ไมไดใชชื่อวาศูนยศึกษา เปนเพียงโครงการซึ่งดูแล
โดยกองๆ หนึ่งในสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ เนื่องจากเปนการกอตั้งศูนยศึกษาการพัฒนาแหงแรก
จึงใหนําหนวยงานที่เกี่ยวของมารวมดําเนินงานในพื้นที่ในลักษณะผสมผสาน มี กรมวิชาการเกษตร กรมสงเสริม
สหกรณ กรมสงเสริมการเกษตร กรมปาไม กรมประมง กรมปศุสัตว กรมชลประทาน กรมพัฒนาชุมชน
กรมโยธาธิการ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี ฉะเชิงเทรา และมีหนวยงานนอกศูนยฯ โดยมีกรมพัฒนาที่ดิน
เปนหนวยงานหลักประสานการทํางานในรูปคณะกรรมการ ขอดี คือ หนวยงานจากหลายกระทรวงไดเขามา
ปฏิบัติงานรวมกัน กระทรวงเกษตรและสหกรณพัฒนาดานการเพาะปลูก กระทรวงมหาดไทยพัฒนาอาชีพ
กระทรวงศึกษาธิการ กอตั้งวิทยาลัยเกษตรกรรม โดยสรางหลักสูตรไมใหเหมือนวิทยาลัยเกษตรทั่วๆ ไป
แตตองการเนนใหมีการลงมือปฏิบัติจริง พระองคทานทรงพัฒนาทั้งคนและงาน พัฒนาตั้งแตขาราชการ โดย
พยายามฝกใหพวกเราคิดและทํางานรวมกันใหได มีลําดับขั้นตอนในการทํางาน ไมชิงดีชิงเดน ไมแยงกัน
ทํางาน หากทุกหนวยงานทํางานประสานกันได มีความตั้งใจที่จะทํา เขาใจกัน ก็จะขับเคลื่อนงานไดงาย
ทานไดเนนเรื่องนี้ สําหรับ ขอเสีย นั้นคือธรรมชาติของคน จะตางคนตางอยู ไมประสานกันและมีการ
กระทบกระทั่งกัน ชิงดีชิงเดน แยงกันทําแลวงานก็ลมเหลว การมีคณะกรรมการหลายคณะเปนลักษณะที่
เรียกวา “มากหมอมากความ ทํางานไมได” งานไมกาวหนาเนื่องจากปญหาเรื่องคน จะเห็นไดวาศูนยศึกษาการ
พัฒนาแหงอื่นๆ ที่ตั้งในภายหลังจะไมมีหนวยงานมากเหมือนที่ ศูนยศึกษาการพัฒนาเขาหินซอน
พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวฯ ทรงเสด็จพระราชดําเนินมาที่ศูนยศึกษาการพัฒนาเขาหินซอน
ในป 2522 2523 และ 2527 หลังจากนั้นก็ไมเสด็จติดตอกันเปนเวลา 13 ป จนกระทั่งป 2540
ชวงระยะเวลาตั้งแต ป 2527 – 2540 ที่คณะเจาหนาที่ที่บริหารศูนยศึกษาการพัฒนาเขาหินซอนรอที่จะรับ
เสด็จพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวฯ นั้น ทางคณะกรรมการก็พยายามสรางความรวมมือ ทบทวนกระแส
พระราชดํารัส และลงมือปฏิบัติตามใหครบถวน ตามลําดับขั้นตอนที่ทรงแนะนํา 5 เรื่อง ทั้งนี้ มี 4 เรื่องที่
ปฏิบัติไดครบเกือบสมบูรณ คือ การพัฒนาสภาพแวดลอม ดิน น้ํา ปาไม การทดลอง วิจัย สาธิต การสราง
แหลงศึกษาเรียนรูการพัฒนาและแหลงพักผอนหยอนใจ การสรางพิพิธภัณฑธรรมชาติที่มีชีวิต จนกระทั่ง
เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2540 พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวเสด็จพระราชดําเนินไปทอดพระเนตรสภาพพื้นที่
ศูนยศึกษาการพัฒนาเขาหินซอน อีกครั้ง (ภาพที่ 3) ซึ่งขั้นตอนการพัฒนาพื้นที่เขาหินซอนที่พระบาทสมเด็จ
พระเจาอยูหัวทรงแนะนําไว มีดังนี้
24 องคความรูสูปดินสากล 2558