Page 26 - องค์ความรู้สู่ปีดินสากล 2558
P. 26
ประการแรก คือ ตองศึกษาขอมูลอยางเปนระบบ วิเคราะหหาตนเหตุของปญหา พระบาทสมเด็จ
พระเจาอยูหัวทรงมองปญหาในภาพรวม(Macro) กอนเสมอ แตการแกปญหาจะเริ่มจากจุดเล็กๆ (Micro) คือ
การแกไขปญหาเฉพาะหนา ที่คนมักจะมองขาม ดังพระราชดํารัสความตอนหนึ่งวา “...ถาปวดหัวก็คิดอะไรไมออก
อยางนั้นตองแกไขการปวดหัวนี้กอน มันไมไดเปนการแกอาการจริง แตตองแกปวดหัวกอน เพื่อที่จะใหอยูใน
สภาพที่คิดได แบบ(Macro) นี้เขาจะทําแบบรื้อทั้งหมด ฉันไมเห็นดวย..อยางบานคนอยูเราบอก บานนี้มันผุ
ตรงนั้น ผุตรงนี้ ไมคุมที่จะไปซอมเอาตกลงรื้อบานนี้ระเบิดเลย เราจะไปอยูที่ไหน ไมมีที่อยู...วิธีทํา ตองคอยๆ
ทํา จะไประเบิดหมดไมได ”
ประการที่สอง คือ สรางความเขาใจ โดยเราตองทําเปนขั้นตอน ทรงตรัสวา“ตองระเบิดจากขางใน”
หมายความวา ตองทําใหคนที่เราเขาไปพัฒนามีสภาพพรอมที่จะรับการพัฒนา มิใชการนําเอาบุคคลจากสังคม
ภายนอกเขาไปหาชุมชนหมูบานที่ยังไมทันไดมีโอกาสเตรียมตัวหรือตั้งตัว การพัฒนาใดๆ ตองคํานึงถึงสภาพ
ภูมิประเทศ ลักษณะนิสัยใจคอของคน ตองสรางความเขาใจ เขาถึง จึงจะเกิดการพัฒนา ทําอยางไรจึงจะทําให
เขาเขาใจวาสิ่งที่เราเสนอให เปนสิ่งที่เหมาะสมและสามารถนําไปปฏิบัติได นี่คือความแตกตางระหวาง
Teaching กับ Coaching ตองเอาคนเปนศูนยกลาง
ประการที่สาม คือ การพึ่งพาตนเอง จะเห็นไดวาในระยะหลังเรามีปจจัยการผลิตโดยไดแจกจายปจจัย
ตางๆ ไป โดยไมคํานึงถึงความสอดคลองกับสิ่งที่เขาจะนําไปใช นําไปปฏิบัติได นอยคนที่ไดรับแจกปจจัยการ
ผลิตไปแลวนําไปใช บางครั้งมีจํานวนไมพอที่จะใชสําหรับทํางานจริง ฝายขาราชการเองก็ไมไดลงมือทํางานจริงจัง
เพราะมัวแตเสียเวลาไปแจกจายของ จึงฝากขอคิดไวดวยวา เบื้องตนควรแกไขปญหาเฉพาะหนา เพื่อให
ประชาชนมีความแข็งแรงพอที่จะดํารงชีวิตไดตอไป แลวขั้นตอไปก็คือการพัฒนาใหสามารถ “พึ่งตนเองได”
ในที่สุด
ประการที่สี่ คือ การแลกเปลี่ยนความรูและการถายทอดเทคโนโลยี เมื่อรู เขาใจ ก็จะคอยๆ เพิ่มการ
พึ่งพาตนเองได ศูนยศึกษาการพัฒนาทุกศูนยเปนแหลงที่รวบรวมกําลังเจาหนาที่จากทุกกรม กอง ทั้งในดาน
เกษตรหรือดานสังคม มีตนทาง คือ ผูเปนเจาหนาที่จะใหประโยชน และปลายทาง คือ ประชาชนจะไดรับ
ประโยชน
ประการที่หา คือ ความบริบูรณขององคความรู ใหเขาสามารถขับเคลื่อนตนเองไปได สิ่งนี้ตองเกิดจาก
ความเพียร ใหดูตัวอยางจากพระราชนิพนธ เรื่อง “พระมหาชนก” กษัตริยผูเพียรพยายามแมจะไมเห็นฝง
ก็ยังวายน้ําตอไป พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวทรงริเริ่มทําโครงการตางๆ ที่ระยะแรกไมมีความพรอม
ในการทํางาน แตพระองคก็มิไดทอพระราชหฤทัย มุงมั่นพัฒนาบานเมืองใหเจริญรุงเรืองตอไป
ศูนยศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดําริ
การริเริ่มโครงการจัดตั้งศูนยศึกษาการพัฒนาเขาหินซอน เปนชวงระยะเวลาเดียวกับที่กรมพัฒนาที่ดิน
เริ่มตนในการจัดระบบอนุรักษดินและน้ํา ศูนยศึกษาการพัฒนาเขาหินซอน เปนศูนยศึกษาการพัฒนาแหงแรก
กอนที่จะมีศูนยศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดําริ แหงอื่นๆ ตามมา รวมทั้งสิ้นมี 6 แหงในปจจุบัน
คือ ศูนยศึกษาการพัฒนาเขาหินซอนอันเนื่องมาจากพระราชดําริ จ.ฉะเชิงเทรา ศูนยศึกษาการพัฒนา
พิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดําริ จ.นราธิวาส ศูนยศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดําริ
จ.สกลนคร ศูนยศึกษาการพัฒนาหวยฮองไครอันเนื่องมาจากพระราชดําริ จ.เชียงใหม ศูนยศึกษาการพัฒนา
หวยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดําริ จ.เพชรบุรี และศูนยศึกษาการพัฒนาอาวคุงกระเบนอันเนื่องมาจาก
พระราชดําริ จ.จันทบุรี
เรื่องเลาเขาหินซอน 23