Page 19 - องค์ความรู้สู่ปีดินสากล 2558
P. 19
2. ระบบพืช
๒.๑. ระบบพืชในพื้นที่ดินเค็มจัด
ในพื้นที่ดินเค็มจัดสงเสริมการปลูกหญาชอบ
เกลือ (หญาดิ๊กซี่) หญาพันธุพื้นเมือง และกระถินออสเตรเลีย
Acasiaampliceps
๒.๒ ระบบพืชในพื้นที่ดินเค็มนอย – ปานกลาง ภาพที่ 8 การปลูกหญาดิ๊กซี่
1) มีการสงเสริมใหมีการปลูกพืชปุยสด เพื่อเก็บเมล็ดพันธุ
บนคันนา เชน ถั่วพรา เปนตน
2) การปลูกไมทนเค็มบนคันนา และขอบทางลําเลียง เชน
ยูคาลิปตัส และ กระถินออสเตรเลีย
3) การสงเสริมการปลูกโสนอัฟริกัน เพื่อเก็บเมล็ดพันธุ
ขายใหกับทางกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
(1) สงเสริมกลุมเกษตรกรในพื้นที่ดินเค็มนอย-ปานกลาง
(2) ใหเมล็ดพันธุโสนอัฟริกันแกกลุมเกษตรกร
(3) อบรมใหความรู/ศึกษาดูงานการผลิตเมล็ดพันธุ
(4) การรับซื้อเมล็ดพันธุจากเกษตรกร ในราคาตาม
มาตรฐานที่สํานักงานพัฒนาที่ดินเขต 5 กําหนด
4) สงเสริมการปลูกพืชปุยสดปรับปรุงบํารุงดิน โดยการ ภาพที่ 9 การปลูกพืชบนคันนา
นําเมล็ดพันธุพืชปุยสดที่รับซื้อจากเกษตรกรไปสงเสริมใหกับเกษตรกรที่
ประสบปญหาพื้นที่ดินเค็มใชปลูกกอนปลูกพืชหลัก
๕) การไถกลบตอซังขาว เปนการนําวิธีการจากระบบ
อนุรักษดินและน้ําในพื้นที่ลุมดอน มาปรับใชในพื้นที่ดินเค็ม เนื่องจาก
พื้นที่ดินเค็มบางพื้นที่ไดมีการปรับปรุงฟนฟูใหดินมีศักยภาพที่ดีสงผลให
ขาวมีผลผลิตที่ดีและยังสงผลใหตอซังขาวมีคุณภาพที่ดีดวย ดังนั้นการ
ไถกลบตอซังขาวตองรีบไถกลบหลังจากที่มีการเกี่ยวขาว เพื่อใหได
อินทรียวัตถุในปริมาณที่มากพอ เนื่องจากพื้นที่ดินเค็มจะมีลมแรงและ
อากาศรอนทําใหการยอยสลายของตอซังขาวเกิดขึ้นอยางรวดเร็ว
๖) สงเสริมพันธุขาวหอมทนเค็มที่เหมาะสม ในพื้นที่ดิน ภาพที่ 10 การไถกลบตอซังขาว
เค็มเกษตรกรจะปลูกขาว ๓ สายพันธุ ไดแก
(1) พันธุ กข ๑๕ เปนพันธุขาวเบา อายุประมาณ
๙๐ ถึง 100 วัน ซึ่งจะสุกแกเร็วกวาพันธุขาวหอมมะลิ ๑๐๕
(2) พันธุขาวหอมมะลิ ๑๐๕ เปนพันธุที่มีคุณภาพ
มากกวาพันธุ กข ๑๕ ทําใหเกษตรกรมีรายไดจากผลผลิตเร็วขึ้น และ
สามารถปลูกไดตลอดป มีอายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 120 วัน
(3) พันธุขาวเหนียว กข ๖
ภาพที่ 11 ผลิตภัณฑขาวหอม “ดินเค็ม”
16 องคความรูสูปดินสากล 2558