Page 117 - รายงานสภาพการใช้ที่ดินและการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. 2554
P. 117
102
พ.ศ. 2553-2554 ราคาตันละ 1,011 บาท (สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2554ก) โดยการผลิตอ้อยโรงงานมี
มูลค่ามากกว่าข้าวถึง 117,042,512 บาท
(2) พื<นที นาข้าวในปี พ.ศ. 2549 เปลี ยนไปเป็นพื<นที ปลูกมันสําปะหลังใน
ปี พ.ศ. 2554 จํานวน 14,153 ไร่ (ตารางที 7) ซึ งถ้าคิดเป็นผลผลิตข้าวถึง 6,241 ตันที สูญเสียไป
โดยผลผลิตข้าวเจ้านาปีเฉลี ยปีการเพาะปลูก 2553/2554 คือ 441 กิโลกรัมต่อไร่ (สํานักงานเกษตรจังหวัด
สุรินทร์, 2554ก) หรือคิดเป็นมูลค่า 84,143,082 เมื อราคาข้าวเปลือกขาวดอกมะลิ 105 เฉลี ยของจังหวัด
สุรินทร์ ตั<งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553-2554 ราคาเกวียนละ 13,482 บาท (สํานักงานเศรษฐกิจ
การเกษตร, 2554ข) แต่ในขณะเดียวกันผลผลิตเฉลี ยของมันสําปะหลังในจังหวัดสุรินทร์ ปีการเพาะปลูก
2553/2554 คือ 3,715 กิโลกรัมต่อไร่ (สํานักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์, 2554ก) ซึ งจะได้ผลผลิต
มันสําปะหลังเท่ากับ 52,578 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่า 133,442,964 บาท เมื อราคามันสําปะหลังของจังหวัด
สุรินทร์ ตั<งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553-2554 ราคาตันละ 2,538 บาท (สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร,
2554ข) โดยการผลิตมันสําปะหลังมีมูลมากกว่าการผลิตข้าวถึง 49,299,882 บาท
2) นโยบายของกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ โดยการขยายขนาดธุรกิจของโรงงาน
อุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มนํ<าตาล KI ได้ขยายการผลิตนํ<าตาลโดยจัดตั<งบริษัท นํ<าตาลสุรินทร์ จํากัด
ขึ<นเมื อวันที 24 ตุลาคม พ.ศ. 2546 ในตําบลปรือ อําเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ดําเนินธุรกิจผลิต และ
จําหน่ายนํ<าตาลทราย ด้วยกําลังการผลิตกว่า 18,000 ตันอ้อยต่อวัน มีการเพิ มความหลากหลายของ
ผลิตภัณฑ์ โดยการจัดตั<ง บริษัท ไฟฟ้ าสุรินทร์ จํากัด ขึ<นเมื อวันที 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ด้วยทุน
จดทะเบียน 995 ล้านบาท โดยตั<งอยู่ในบริเวณพื<นที เดียวกับ บริษัท นํ<าตาลสุรินทร์ จํากัด เพื อดําเนิน
ธุรกิจผลิตและจําหน่ายไฟฟ้ า จากพลังงานชีวมวล โดยใช้ กากอ้อย มีกําลังการผลิตไฟฟ้ า รวม 30
เมกกะวัตต์ต่อชั วโมง (บริษัท อุตสาหกรรมโคราช จํากัด, ม.ป.ป.) จึงมีความต้องการวัตดุดิบเพิ มขึ<น
3) สภาวะตลาดภายในและนอกประเทศ ราคาขั<นต้นของอ้อยโรงงานในจังหวัดสุรินทร์
เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2554 ที สูงถึงตันละ 1,112 บาท มากกว่าราคาในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2553 ซึ งเป็นต้น
ฤดูกาลหีบอ้อย ถึง 167 บาทต่อตัน (สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2554ข) จึงเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกร
เพาะปลูกอ้อยเพิ มขึ<นในปีการผลิตที 2554 โดยเมื อเปรียบเทียบการส่งออกนํ<าตาลในปี พ.ศ. 2549 และ
พ.ศ. 2553 พบว่ามีการส่งออกเพิ มขึ<น จาก 1,008,751,415 ตัน เป็น 35,735,565,526 ตัน (สํานักงานเศรษฐกิจ
การเกษตร, 2554ค) ซึ งแสดงว่าโรงงานยังคงต้องการผลผลิตอ้อยเพื อป้ อนโรงงาน สําหรับมันสําปะหลัง
นั<น เมื อเปรียบเทียบการส่งออกผลิตภัณฑ์ ในเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ. 2553 และ ปี พ.ศ. 2554 พบว่า มันเส้น
มันสําปะหลังอัดเม็ด แป้ งมันสําปะหลังดิบ และแป้ งมันสําปะหลังแปรรูป มีการส่งออกใน ปี พ.ศ. 2554
เพิ มขึ<น 167,166 ตัน 275 ตัน 94,773 ตัน และ 11,761 ตัน ตามลําดับ (กรมการค้าภายใน, 2554) เมื อ
เปรียบเทียบราคาหัวมันสําปะหลังสดเฉลี ยระหว่าง พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2553 เพิ มขึ<นจาก 1.21 บาทต่อ
กิโลกรัมเป็น 2.25 บาทต่อกิโลกรัม (สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2554ก) จึงส่งผลให้มีพื<นที การผลิต