Page 30 - รายงานการใช้ข้อมูลสำรวจระยะไกลเพื่อศึกษาความอุดมสมบูรณ์ของดินในพื้นที่เสี่ยง Using of Remote Sensing Data for Soil Fertility Assessment in Areas at Risk of Acidic soil and Saline Soil of Central Thailand
P. 30
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
24
ประจุบวกได้สูงจึงมีผลท าให้ดินที่มีอินทรียวัตถุสูง มีความต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงของความเป็นกรดเป็นด่าง
ได้ดี และเป็นแหล่งส ารองธาตุอาหารขนาดใหญ่ โดยเฉพาะธาตุไนโตรเจน และหลังจากถูกย่อยสลายโดยกิจกรรม
ของจุลินทรีย์จะปลดปล่อยธาตุอาหารเกือบทุกชนิดออกมาสะสมอยู่ในดิน ซึ่งจากการวิเคราะห์สารประกอบส่วนที่
เป็นคาร์บอนของอินทรียวัตถุในดินพบว่าโดยทั่วไปประกอบด้วย สารประกอบพวกคาร์โบไฮเดรต 10-20
เปอร์เซ็นต์ สารที่มีไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบ เช่น กรดอะนิโม และ น้ าตาลอะมิโน ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์
สารประกอบกรดไขมันประเภทอะลิฟาติก 10-20 เปอร์เซ็นต์ และ ส่วนที่เหลือคือ สารประกอบประเภทระเหยได้
ทั้งนี้อินทรียวัตถุในดินแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ส่วนที่เป็นสารฮิวมิก (humic substance) กับส่วนที่
ไม่ใช่สารฮิวมิก (non-humic substance) สารฮิวมิกเป็นส่วนที่มีโครงสร้างซับซ้อนและคงทนต่อการย่อยสลาย
โดยจุลินทรีย์ โครงสร้างหลักประกอบด้วยสารประกอบประเภทระเหยได้เป็นแกน จึงท าให้สารฮิวมิกสลายตัวได้
ยาก บางส่วนของฮิวมิกมีสารประกอบประเภทโปรตีน เพปไทด์ กรดอะมิโน และ โพลีแซกคาไรด์ เข้ามาเกาะใน
โมเลกุล ในขณะที่ส่วนที่ไม่ใช่สารฮิวมิกนั้นเป็นสารประกอบประเภทที่มีโครงสร้างของโมเลกุลไม่ซับซ้อน
ย่อยสลายได้ง่ายกว่า เช่น คาร์โบไฮเดรต ไลปิด โปรตีน กรดอะมิโน และ กรดอินทรีย์ เป็นต้น สารประกอบเหล่านี้
ปกติจะถูกจุลินทรีย์ย่อยสลายได้โดยง่าย แต่ที่ยังคงพบว่ามีอยู่ในดินในปริมาณค่อนข้างมากนั้นเนื่องจากว่าสาร
เหล่านั้นส่วนใหญ่เกาะยึดอยู่กับอนุภาคของดิน หรือท าปฏิกิริยากับแคตไอออนของโลหะบางชนิด เช่น เหล็ก
อะลูมิเนียม หรือ ทองแดง หรือเข้าไปเป็นสารเชื่อมเม็ดดินซึ่งมีผลให้เม็ดดินสลายตัวได้ยากขึ้น ท าให้อินทรียวัตถุ
ในดินมีส่วนในการเชื่อมและยึดเม็ดดินให้เกาะกันส่งผลให้ดินทนทานต่อการสลายตัวและท าให้การกร่อนของดิน
เกิดได้ยากขึ้นนั้น ถ้าหากจะมีการพิจารณาถึงสมบัติโดยทั่วไปของอินทรียวัตถุในดินร่วมไปด้วยแล้วจะท าให้เกิด
ความเข้าใจในบทบาทของอินทรียวัตถุในแง่ทีเกี่ยวข้องกับการช่วยปรับโครงสร้างด้านต่าง ๆ ของดิน ซึ่งส่งผลให้
ดินมีความทนทานต่อปัจจัยต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดการกร่อนของดิน และในแง่ของคุณสมบัติของอินทรียวัตถุที่มีผลใน
การเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน ซึ่งการจัดระดับความเป็นประโยชน์ของอินทรียวัตถุในดินโดย บรรเจิด พลางกูร
(2543) แบ่งได้ 7 ระดับ โดยดินที่มีปริมาณอินทรียวัตถุน้อยกว่า 0.5 เปอร์เซ็นต์เป็นดินที่มีระดับอินทรียวัตถุต่ ามาก
และดินที่มีปริมาณอินทรียวัตถุมากกว่า 4.5 เปอร์เซ็นต์เป็นดินที่มีระดับอินทรียวัตถุสูงมาก (ตารางที่ 9)
ตารางที่ 9 การจัดระดับความเป็นประโยชน์ของอินทรียวัตถุ
ปริมาณอินทรียวัตถุ (%) ระดับ (OM)
< 0.5 ต่ ามาก
0.5-1.0 ต่ า
1.0-1.5 ค่อนข้างต่ า
1.5-2.5 ปานกลาง
2.5-3.5 ค่อนข้างสูง
3.5-4.5 สูง
>4.5 สูงมาก
ที่มา : จาก ทรัพยากรดิน (น.12), โดย บรรเจิด พลางกูร ,2543 อ้างอิงใน
ส านักวิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาที่ดิน (2547)