Page 32 - แนวทางการส่งเสริมการเกษตรที่เหมาะสมตามฐานข้อมูลแผนที่เกษตรเชิงรุก Agri-Map จังหวัดเพชรบูรณ์
P. 32

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

                                                               25








                       สมุนไพร มีรายไดและความมั่นคงในการดํารงชีพจากฐานขอมูล Agri-Map Online จังหวัดเพชรบูรณ มี
                       พื้นที่ศักยภาพที่สามารถสงเสริมใหปลูกพืชสมุนไพรไดหลายชนิด อาทิ ขมิ้นชัน
                             ขมิ้นชันเปนพืชปลูกงาย ชอบแสงแดดจัด และมีความชื้นสูง ชอบดินรวนซุย มีการระบายน้ําดี
                       ไมชอบน้ําขัง เกษตรกรสามารถปลูกขมิ้นชันแซมในสวนเปนการใชพื้นที่ใหเกิดประโยชน และมีรายได

                       ระหวางรอการเติบโตของยางพาราหรือปาลมน้ํามัน โดยพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณมีพื้นที่ศักยภาพในการ
                       ปลูกขมิ้นชันที่ระดับความเหมาะสมสูง (S1) 194,173 ไร


                       4  แนวทางการสงเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจ

                         4.1  ขาว
                             1) พื้นที่ปลูกขาวที่มีความเหมาะสมสูง (S1) และปจจุบันยังปลูกขาวอยู มีเนื้อที่ 69,343 ไร

                       อยูในเขตอําเภอหลมสัก อําเภอเมืองเพชรบูรณ อําเภอวังโปง และกระจายตัวในพื้นที่เล็ก ๆ ในอําเภอเขาคอ
                       อําเภอชนแดน และอําเภอบึงสามพัน โดยตั้งอยูในเขตชลประทาน 7 อําเภอ ทั้งนี้คณะอนุกรรมการพัฒนา

                       ที่ดินจังหวัดสมควรใหมีการเสนอแผนการใชที่ดินเพื่อสงวนใหเปนแหลงผลิตขาวที่สําคัญของ
                       จังหวัด และมีการบริหารจัดการน้ําชลประทาน การจัดการดิน ปุย พันธุขาว โดยรวมกลุมเปนเกษตร

                       แปลงใหญ พัฒนาตอยอดครบวงจรการตลาดในและตางประเทศ การแปรรูป แหลงทุน มีภาครัฐ
                       สนับสนุนการทํามาตรฐานสินคาเกษตรอินทรีย และ การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural

                       Practices: GAP) และเนื่องจากเปนพื้นที่ศักยภาพสูง การปลูกพืชหลังนาจะชวยใหเกษตรกรมีรายได
                       เพิ่มขึ้น และเปนการปรับปรุงบํารุงดิน
                             2) พื้นที่ปลูกขาวที่มีความเหมาะสมปานกลาง (S2) และปจจุบันยังปลูกขาวอยู มีเนื้อที่มาก

                       ถึง  941,348 ไร กระจายตัวอยูในทุกอําเภอของจังหวัดเพชรบูรณ เปนพื้นที่ปลูกขาวที่มีขอจํากัดไมมากนัก
                       เกษตรกรยังคงปลูกขาวไดผลดี หลายแหงประสบปญหาขาดน้ําในบางชวงของการเพาะปลูก ควร

                       สนับสนุนดานการบริหารจัดการน้ํา เชน ชลประทาน จะสรางความมั่นใจใหกับเกษตรกรในการใชที่ดิน
                       ปญหาการทิ้งถิ่นฐานไปทํางานที่อื่นจะลดลง และพื้นที่ในเขตนี้มีความเหมาะสมสําหรับการเกษตร
                       แบบผสมผสาน เกษตรแมนยําหรือเกษตรทฤษฎีใหม เปนตน และภาครัฐควรใหความรูความเขาใจกับ

                       เกษตรกรโดยแนะนําวาไมควรปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่น หากขาวราคาไมดีและตองการปรับเปลี่ยน
                       การผลิตควรเปนพืชไร เพื่อที่วาในอนาคตยังสามารถกลับมาทํานาไดอีก

                             3) พื้นที่ปลูกขาวที่ไมมีความเหมาะสม (S3 และ N) และปจจุบันเกษตรกรยังคงใช
                       ที่ดินปลูกขาวอยู 254,520 ไร ซึ่งประสบปญหาซ้ําซาก เชน น้ําทวม ขาดน้ํา ผลผลิตต่ํา กระทรวงเกษตรและ

                       สหกรณใหการชวยเหลือเกษตรกรที่ทํากินในพื้นที่นี้ เนื่องจากเปนพื้นที่ไมเหมาะสม โดยสนับสนุนการ
                       ปรับโครงสรางที่ดิน ปรับปรุงบํารุงดิน สนับสนุนแหลงน้ํา ใหเกษตรกรเลือกปลูกพืชชนิดใหมที่มีความ

                       เหมาะสม และใหผลตอบแทนที่ดีกวา หรือใชพื้นที่ผลิตอาหารเพื่อบริโภคในครัวเรือน หรือเขา
                       โครงการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning by Agri-Map) เปนตน
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37