Page 9 - การจัดการวัสดุทางปาล์มที่เหมาะสมรอบทรงพุ่มต่อการเพิ่มอินทรียวัตถุและธาตุอาหารในดินเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันในชุดดินระแงะ Suitable management of pilesing leaves in canopy to increase organic matter and nutrition for oil palm plantation in Rangae series.
P. 9

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

                                                                                                     8



                                              ที่มา (กรมพัฒนาที่ดิน, 2551)

                              ถาดินมีปริมาณอินทรียวัตถุต่ำถึงต่ำมาก คือต่ำกวา 0.5 และ 0.5 – 1.0 เปอรเซ็นต ตอง

               เพิ่มอินทรียวัตถุลงไปในดินจำนวนมาก ถาดินมีอินทรียวัตถุตั้งแต 1.0 – 2.0 เปอรเซ็นต ดินมีอินทรียวัตถุ
               ปานกลาง ควรเพิ่มอินทรียวัตถุลงไปในดินบาง ถาดินมีอินทรียวัตถุอยูในระดับ 3 – 5 เปอรเซ็นต
               ไมจำเปนตองเพิ่มอินทรียวัตถุลงไปในดิน
               ประโยชนของอินทรียวัตถุในดิน

                             อินทรียวัตถุในดิน มีอิทธิพลตอสมบัติทางดานกายภาพ เคมี และชีวภาพของดิน ซึ่ง
               สามารถสรุปไดดังตอไปนี้
                             1. สมบัติทางดานกายภาพของดิน
                             1.1 สีของดิน อินทรียวัตถุทำใหดินเปลี่ยนเปนสีน้ำตาลจนถึงสีดำ เนื่องจากฮิวมัสที่ไดจะ

                             มีสีน้ำตาลเขม มีขนาดของอนุภาคละเอียดมีพื้นที่ผิวจำนวนมากสามารถคลุกเคลากับ
                             สวนตางของดินไดดี
                             1.2 อินทรียวัตถุชวยใหอนุภาคของดินจับตัวกันเปนกอน ทำใหดินมีโครงสรางที่ดีขึ้น มี

                             การถายเทอากาศไดดีมีการระบายน้ำไดดีทำใหดินมีความชุมชื้น
                             1.3 อินทรียวัตถุในดิน มีพื้นที่ผิวมากทำใหดินมีความสามารถในการอุมน้ำไดดีขึ้น
                             2. สมบัติทางดานเคมีของดิน
                             2.1 อินทรียวัตถุเปนแหลงใหธาตุไนโตรเจนฟอสฟอรัสและกำมะถันซึ่งเกิดจากปฎิกิริยา
               มิเนรัลไลเซชัน(mineralization)ซึ่งจะปลดปลอยธาตุดังกลาวออกมาอยางชาๆ ซึ่งปริมาณธาตุไนโตรเจน

               ทั้งหมดขึ้นอยูปริมาณอินทรียวัตถุที่อยูในดิน
                              2.2  อินทรียวัตถุในดินมีความสามารถดูดซับแคตไอออน  (cation)  ไดดี  เนื่องจาก
               อินทรียวัตถุมีสารประกอบจำพวก คารบอซิลิก (carboxylic group ; COOH) และหมูฟนอลิก(phenolic

               group  ;  OH)เมื่อสารประกอบดังกลาวแตกตัวจะไดประจุลบ  แคตไอออนที่อยูในดินสามารถรวมกับ
               สารประกอบดังกลาวไดทำใหธาตุอาหารที่เปนไอออนบวก  โดยเฉพาะธาตุอาหารเสริมไมสูญเสียไปกับการ
               ชะลาง
                             2.3 อินทรียวัตถุในดิน จะชวยลดการตรึงฟอสฟอรัสของดินที่มีเหล็ก และอลูมินัมอยูมาก

               และลดความเปนพิษของโลหะดังกลาว เนื่องจากอินทรียวัตถุมีสารประกอบจำพวกคารบอซิลิก
               (carboxylicgroup ; COOH) และหมูฟนอลิก (phenolic group ; OH) ซึ่งสามารถเกิดสารประกอบ
               เชิงซอนที่ไมละลายน้ำกับพวกโลหะ (เหล็ก อลูมินัม และแมงกานีส) แทนฟอสฟอรัส
                             2.4 ชวยเพิ่มความตานทานการเปลี่ยนแปลงความเปนกรดเปนดางของดิน (buffer

               capacity)เนื่องจากอินทรียวัตถุในดินมีจำนวนประจุลบอยูเปนจำนวนมากสามารถจะดูดซับไอออนบวกได
               เปนปริมาณมากดวย ดังนั้นดินที่มีอินทรียวัตถุสูงสามารถตานทานตอการเปลี่ยนแปลงพีเอช (pH) ไดดี

               3. สมบัติทางชีวภาพของดิน

                              3.1 อินทรียวัตถุในดิน จะเปนแหลงอาหารที่สำคัญสำหรับจุลินทรียในดินให
               จุลินทรียในดินสามารถทำกิจกรรมตาง ๆไดดีขึ้น
                              3.2 ชวยยับยั้งการเจริญและความสามารถในการกอใหเกิดโรคพืชของเชื้อโรค เนื่องจาก
               สารปฎิชีวนะที่ขับออกมาจากเชื้อจุลินทรียบางชนิดการเกิดการแขงขันกันระหวางจุลินทรียดินกับจุลินทรีย

               ที่กอใหเกิดโรค และการที่จุลินทรียดินเปนศัตรูกับเชื้อโรคพืช
   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14