Page 10 - การจัดการวัสดุทางปาล์มที่เหมาะสมรอบทรงพุ่มต่อการเพิ่มอินทรียวัตถุและธาตุอาหารในดินเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันในชุดดินระแงะ Suitable management of pilesing leaves in canopy to increase organic matter and nutrition for oil palm plantation in Rangae series.
P. 10

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

                                                                                                     9




               การเพิ่มอินทรียวัตถุใหแกดิน
                             อินทรียวัตถุแตละชนิดประกอบดวยสารประกอบคารบอน และไนโตรเจน ( C/N ratio )

               แตกตางกันดังแสดงในตารางที่6.4  พบวาชนิดของสารประกอบประเภทขาวโพด  ฟางขาว  กากออย  และ
               ขี้เลื่อยมีอัตราสวนระหวาง  คารบอนตอไนโตรเจน  มากกวา  20  กอนที่ใชปลูกตนพืชตองนำมาทำเปนปุย
               หมักเสียกอน    เพื่อใหเกิดการยอยสลายดวยจุลินทรียจนกระทั่งเปนปุยหมักที่สมบูรณซึ่งมีคาอัตราสวน
               คารบอนตอไนโตรเจน  เทากับหรือต่ำกวา  20  แลวนำไปใสในดิน  ซึ่งจะทำใหเกิดกระบวนการมิเนรัลไลเซ

               ชันทำใหธาตุอาหารพืชในปุยหมักปลดปลอยมาเปนประโยชนตอพืชในดินได
               การจัดการดินและพืชเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุในดินสำหรับดินที่มีปริมาณอินทรียวัตถุต่ำสามารถหาทางเพิ่ม
               อินทรียวัตถุในดิน โดยแบงออกเปน 2 แนวทาง คือ
                              1.  การจัดการดินที่มีอินทรียวัตถุต่ำโดยใชปุยอินทรียชนิดตางๆ ปุยหมัก ปุยพืชสด

               ปุยคอกและการไถกลบวัสดุเหลือใชที่มีอยูในไรนา
                              2.  การจัดการพืชเพื่อการปรับปรุงดิน โดยการจัดระบบการปลูกพืชหมุนเวียนการ
               ปลูกแซม  การปลูกพืชเปนแถบ  การปลูกพืชเหลี่อม  การปลูกพืชระหวางไมยืนตนและการปลูกพืชคลุมดิน

               โดยเฉพาะพืชตระกูลถั่ว (กรมพัฒนาที่ดิน, 2551)
                              ชุดดินระแงะ (Rangaeseries:Ra) กลุมชุดดินที่14 การจำแนกดิน Veryfine, mixed,
               superactive, acid, isohyperthermic Sulfic Endoaquepts เกิดจากตะกอนน้ำกรอยพามาทับถมอยู
               บนบริเวณที่ราบลุมต่ำชายฝงทะเลหรือ พื้นที่พรุ (Former Tidal Flat or Swamp Deposit) สภาพพื้นที่ที่
               พบมีลักษณะเปนที่ลุมต่ำหรือพื้นที่พรุมีความลาดชัน  0 - 1 เปอรเซ็นต  มีการระบายน้ำเลวมากการไหลบาของน้ำ

               บนผิวดินชาความสามารถการซึมผานไดของน้ำชาโดยทั่วไปเปนปาเสม็ดและเปนเฟรน กก กระจูด เปนไม
               พื้นลาง บางแหงใชทำนาและยกรองปลูกยางพารา ปาลมน้ำมันพบทั่วไปในพื้นที่ลุมต่ำ พื้นที่ราบชายฝง
               ทะเลภาคใตลักษณะและสมบัติดินเปนดินเหนียวลึกมากดินบนมีเนื้อดินเปนดินรวนมีสีดำหรือสีเทาปนดำมี

               ปฏิกิริยาดินเปนกรดจัดมาก (pH 4.5 - 5.0) ดินลางมีเนื้อดินเปนดินเหนียวหรือดินเหนียวปนทรายแปงสี
               น้ำตาลปนเทามีจุดประสีเหลืองและสีน้ำตาลมีปฏิกิริยาดินเปนกรดจัดมากถึงเปนกรดจัด  (pH 4.5 - 5.5)
               และดินลางชั้นถัดไปชวงความลึก 50 - 100 เซนติเมตรจากผิวดิน มีเนื้อดินเปนดินเลนเหนียวสีเทาปนน้ำ
               เงินที่มีสารประกอบกำมะถันมาก (pyrite: FeS 2) ปฏิกิริยาดินเปนกรดจัดถึงเปนกรดเล็กนอย(pH 5.5 -

               6.5) เมื่อดินแหงชั้นดินนี้จะแปรสภาพเกิดเปนดินกรดกำมะถันดินบนและดินลางมีความอุดมสมบูรณต่ำ
               ขอจำกัดการใชประโยชนที่ดินเปนดินกรดจัดมาก มีธาตุอะลูมินัม เหล็ก และแมงกานีสถูกละลายออกมา
               มากจนเปนพิษตอพืชธาตุฟอสฟอรัสถูกตรึงอยูในรูปที่พืชดูดไปใชไมได ดินมีโครงสรางแนนทึบและคุณภาพ
               น้ำเปนกรดจัดและมีน้ำแชขังนานไมเหมาะสมสำหรับการปลูกพืชที่ไมชอบน้ำขังการใชประโยชนที่ดิน

               ใชทำนาควรควบคุมและลดความเปนกรดของดินดวยวัสดุปูน เชน ปูนมารล และหินปูนฝุนรวมกับการใช
               น้ำหมักชีวภาพ พด.2 และปุยเคมีพื้นที่ยกรองควรรักษาหนาดินไวปลูกพืช ควบคุมความเปนกรดของดิน
               ดวยวัสดุปูนและปรับปรุงหลุมปลูกดวยปุยพืชสด ปุยหมัก หรือปุยคอกรวมกับปุยอินทรียน้ำและปุยเคมี
               พัฒนาแหลงน้ำ ระบบควบคุมน้ำและระบบใหน้ำในแปลงปลูก(สำนักสำรวจดินและวางแผนการใชที่ดิน

               ,2548)
                              ปาลมน้ำมัน (Elaeis guineensis Jacq.) เปนพืชยืนตน ใบเลี้ยงเดี่ยว มีความสามารถสูง
               ในการเปลี่ยนแปลงพลังงานแสงแดดใหเปนน้ำมันพืชเมื่อเปรียบเทียบกับพืชน้ำมันชนิดอื่น(อรรถ และคณะ

               , 2548) ปาลมน้ำมันมีการเจริญเติบโตทางลำตนอยางรวดเร็ว ถาไดรับสภาพแวดลอมที่เหมาะสม เชน
               ปริมาณน้ำฝนที่เหมาะสมอยูระหวาง 2,200-3,000 มิลลิเมตรตอปและในแตละเดือนมีปริมาณน้ำฝนไม
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15