Page 24 - การประเมินปริมาณโพแทสเซียมในดิน ด้วยเทคนิคเนียร์อินฟราเรด (NIR) The evaluation of Potassium content in soil by Near Infrared.

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

24

(a) สมการ Calibration (b) สมการ Validation

ภาพที่ 5 แสดงความสัมพันธ์ของปริมาณโพแทสเซียมในดินที่ได้จากการวิเคราะห์จริงจากกลุ่มตัวอย่างดินที่มี Clay

41-60% (a) ความสัมพันธ์ของสมการ Calibration (b) ความสัมพันธ์ของสมการ Validation

3.2.4 สมการคาลิเบรชันจากกลุ่มตัวอย่างดิน ที่มีปริมาณอนุภาคดินเหนียว >60% พบว่า ในการสร้าง
สมการคาลิเบรชันของกลุ่มตัวอย่างที่มีอนุภาคดินเหนียว >60% หลังการกำจัดข้อมูลที่มีความผิดปกติออกจากกลุ่ม

แล้ว เหลือตัวอย่างจำนวน 47 ตัวอย่าง ทำการปรับแต่งสเปกตรัมเพื่อลดความคลาดเคลื่อนจากการวิเคราะห์

จากนั้นทำการสร้างสมการคาลิเบรชั่น ผลการวิเคราะห์ทางสถิติด้วย PLSR ของกลุ่ม Calibration set มี R =
2
0.97, RMSEE = 10.8, RPD = 5.99 (ภาพที่ 6 (a) และตารางที่ 4) ซึ่งจากค่าทางสถิติ R แสดงถึงค่าความสัมพันธ์
2
ระหว่างค่าจริงและค่าทำนายมีความสัมพันธ์ดีมาก และมีค่า RPD สูง ซึ่งถือว่าเป็นสมการคาลิเบรชันที่มี

ประสิทธิภาพดี สามารถใช้ในการตรวจคุณภาพได้แต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังในการประยุกต์ใช้งาน
ในส่วนการทดสอบความถูกต้องของสมการที่สร้างขึ้นด้วยวิธี cross validation นั้น จากผลการวิเคราะห์

2
ทางสถิติด้วย PLSR ของสมการ validation มีค่า R = 0.95, RMSECV = 13.7, RPD = 4.49 และ Bias = -0.96
(ภาพที่ 5 (b) และตารางที่ 5) พบว่า สมการ validation มีค่า RPD สูง หมายถึงสมการคาลิเบรชันที่สร้างขึ้น

สามารถทำนายได้อย่างแม่นยำ

(a) สมการ Calibration (b) สมการ Validation

ภาพที่ 6 แสดงความสัมพันธ์ของปริมาณโพแทสเซียมในดินที่ได้จากการวิเคราะห์จริงจากกลุ่มตัวอย่างดินที่มี Clay
>60% (a) ความสัมพันธ์ของสมการ Calibration (b) ความสัมพันธ์ของสมการ Validation