Page 7 - ผลการปรับปรุงดินด้วยถ่านชีวภาพต่อปริมาณความชื้นและการแทรกซึมน้ำในดินปลูกมันสำปะหลัง Effect of Biochar for Soil Amendment on Moisture Content and Water Infiltration for Planting Cassava
P. 7
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
1
บทนำ
หลักการและเหตุผล
มันสำปะหลังพืชเศรษฐกิจที่สำคัญอันดับต้นๆของประเทศไทยเป็นพืชที่ปลูกง่ายสามารถปลูกได้ทุกเนื้อดินและ
ทนต่อความแห้งแล้ง จากรายงานของมูลนิธิพัฒนามันสำปะหลัง ปี 2550 พบว่าผลผลิตมันสำปะหลังที่เพิ่มขึ้นมาจาก
การขยายพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้น แต่เกษตรกรไม่นิยมปรับปรุงบำรุงดินทั้งทางเคมีและกายภาพจึงประสบปัญหา
ผลตอบแทนไม่คุ้มค่าขณะที่สภาพภูมิอากาศในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงทำให้ฝนตกทิ้งช่วง และไม่สม่ำเสมอ
ประกอบกับดินมีความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุอาหารต่ำมาก และไม่สามารถกักเก็บความชื้นได้นาน ส่งผลให้ต้น
มันสำปะหลังขาดช่วงในการเจริญเติบโตและอาจส่งผลให้ใบร่วงได้ในที่สุด ถ่านชีวภาพจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการ
ปรับปรุงดินปลูกมันสำปะหลัง เนื่องจากถ่านชีวภาพมีลักษณะเป็นเนื้อละเอียด และเต็มไปด้วยรูพรุน เป็นผลิตภัณฑ์
ที่เกิดจากกระบวนการเผาไหม้ของชีวมวลมีประโยชน์ในการปรับปรุงดิน เนื่องจากมีความเป็นรูพรุนสูงช่วยให้
จุลินทรีย์ที่อยู่ในดินดำรงชีวิตอยู่ได้ ซึ่งจุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายและแปรสภาพธาตุอาหารให้อยู่ในรูปที่เป็นประโยชน์
ต่อพืชได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ่านชีวภาพมีสมบัติในการดูดยึดธาตุอาหารต่างๆ และความชื้นในดิน ซึ่งความชื้น
ในดินจะส่งผลถึงผลผลิตของมันสำปะหลัง เนื่องจากหากดินมีความชื้นน้อย หรือแห้งแล้ง จะทำให้มันสำปะหลังตาย
หรือให้ผลผลิตต่ำ ดังนั้นการศึกษาผลของการนำถ่านชีวภาพมาใช้ปรับปรุงดินในการปลูกมันสำปะหลังจึงมี
ความสำคัญเป็นอย่างมากเพื่อให้เกิดการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้เพื่อการปรับปรุงบำรุงดินได้อย่างมี
ประสิทธิภาพและเหมาะสมกับที่ดินของเกษตรกรต่อไป
วัตถุประสงค์
เพื่อศึกษาผลของถ่านชีวภาพที่มีต่อปริมาณความชื้นและการแทรกซึมของน้ำในดินปลูกมันสำปะหลัง
ขอบเขตโครงการวิจัย
ศึกษาผลของถ่านชีวภาพไม้ประดู่ที่มีต่อปริมาณความชื้นและการแทรกซึมของน้ำในดินปลูกมันสำปะหลังในภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเปรียบเทียบกลุ่มเนื้อดินได้แก่ กลุ่มเนื้อดินหยาบ ปานกลาง และละเอียด
ทฤษฎี สมมุติฐาน และกรอบแนวคิดโครงการวิจัย
การนำถ่านชีวภาพมาใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงดินปลูกมันสำปะหลัง สามารถช่วยดูดซับความชื้นให้อยู่ในดิน
ทุกลักษณะเนื้อดินได้ยาวนานขึ้น ส่งผลให้เกิดกิจกรรมการย่อยสลายและแปรสภาพธาตุอาหารให้อยู่ในรูปที่เป็น
ประโยชน์ต่อพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากในระหว่างการเพาะปลูกดินสามารถกักเก็บความชื้นได้ดี ก็จะสามารถให้
ผลผลิตที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นด้วย