Page 20 - ผลการปรับปรุงดินด้วยถ่านชีวภาพต่อปริมาณความชื้นและการแทรกซึมน้ำในดินปลูกมันสำปะหลัง Effect of Biochar for Soil Amendment on Moisture Content and Water Infiltration for Planting Cassava
P. 20
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
14
ภาพที่ 7 ลักษณะพื้นผิวของไม้ประดู่ (ภาพตัดขวาง) จากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด
ตารางที่ 4 สมบัติทางเคมีของถ่านชีวภาพไม้ประดู่
สมบัติเคมี
pH EC OC N P 2O 5 K 2O CaO MgO
(dS/m) (% w/w) (%) (%) (%) (%) (%)
ถ่านชีวภาพไม้ประดู่ 9.78 1.54 8.43 0.37 0.21 0.50 1.73 0.42
3. ความชื้นในดิน
การศึกษาความชื้นในดิน โดยใช้เครื่องวัดความชื้นแบบ Profile Probe ทำการวัดความชื้นในดินโดยปริมาตรที่
ระดับความลึกจากผิวดิน 6 ระดับ ได้แก่ 10, 20, 30, 40, 60 และ 100 เซนติเมตร ตามลำดับ การตรวจสอบ
ความชื้นในดินเป็นค่าที่มีความผันแปรตลอดระยะเวลาการปลูกมันสำปะหลัง จึงติดตามระดับความชื้นดิน ในแต่ละ
ระดับความลึกของดินเพื่อเป็นข้อมูลตามระยะการเจริญเติบโตของมันสำปะหลัง 3 ช่วง ได้แก่ระยะ 1 เดือน ระยะ 3
เดือน และระยะเก็บเกี่ยว เป็นเวลา 2 ปี ผลความชื้นในดินกลุ่มเนื้อดินต่าง ๆ ตามวิธีการใส่ถ่านชีวภาพ (T1: ไม่ใส่
ถ่านชีวภาพ; T2: ใส่ถ่านชีวภาพทุกปี ปีละ 1,000 กิโลกรัมต่อไร่รวม 2 ปี และ T3: ใส่ถ่านชีวภาพเพียงครั้งเดียว
2,000 กิโลกรัมต่อไร่) เป็นดังนี้
▪ แปลงมันสำปะหลัง อำเภอจักราช ตัวแทนกลุ่มดินเนื้อหยาบ
ความชื้นในดินโดยปริมาตรกลุ่มดินเนื้อหยาบตามช่วงระยะเวลาการปลูกมันสำปะหลัง แสดงดังตารางที่ 5
พบว่าความชื้นในดินตามวิธีการใส่ถ่านชีวภาพทั้ง 3 วิธี มีความผันแปรเกาะกลุ่มกันตามระดับความลึกของดิน ตลอด
ช่วงระยะเวลาการปลูกมันสำปะหลัง (ภาพที่ 8-9)