Page 16 - การศึกษาประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ปุ๋ยชีวภาพสำหรับนาข้าวต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในดินร่วนปนทราย จังหวัดสุรินทร์ Study efficiency of bio-fertilizer to increase growth and rice (Khao Dawk Mali 105) yield inSandy Loam soil, Surin Province.
P. 16

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน




                   ตำรับการทดลองที่ 3 และตำรับการทดลองที่ 5 ตำรับการทดลองที่ 7 และตำรับการทดลองที่ 8  มีปริมาณธาตุอาหาร
                                                                                   -1
                   ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ต่อพืชปานกลาง เท่ากับ 12 13 15 12 และ12 mg kg  ตามลำดับ  ตำรับการทดลองที่ 6
                   และตำรับการทดลองที่ 1 ตำรับการทดลองที่ 3 ตำรับการทดลองที่ 5 ตำรับการทดลองที่ 7 และตำรับการทดลองที่ 8 มี
                   ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่นที่ 95%

                   ตารางที่ 5 ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ต่อพืชในดิน (P) ระหว่างปี 2561- 2563
                          ตำรับ                    ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดิน ระดับการประเมิน (mg/kg)
                        การทดลอง        ปี 2561               ปี 2562                        ปี 2563

                                         หลัง           ก่อน           หลัง           ก่อน            หลัง
                           T1            27 AB           11 B          17 AB           12 B          19 AB
                           T2            28 A            25 A          20 AB          19 AB          11 ABCD

                           T3            13              11 B           14 B           13 B          18 ABC
                                           ABC
                           T4            15 ABC          13 B          20 AB          16 AB          12 ABCD
                           T5             8 C            6 B           18 AB           15 B          10 BCD

                           T6            14 ABC          12 B           29 A           22 A           22 A
                           T7            10 BC           9 B            14 B           12 B           7 D
                           T8             9 C            8 B           17 AB           12 B           8 CD

                         F-test           *              *               *              *              *
                         % CV            61.61          36.76          41.12          25.57          46.09
                   หมายเหตุ : T = ตำรับการทดลองที่…n, * = มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่นที่ 95%

                       2.5 ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ต่อพืชในดิน ระหว่างปี 2561- 2563
                          จากตารางที่ 6 ผลการศึกษาปริมาณธาตุอาหารโพแทสเซียม ปี 2561 หลังการทดลอง พบว่าทุกตำรับการ
                   ทดลองมีปริมาณธาตุอาหารอยู่ในระดับต่ำมาก โดยตำรับการทดลองที่ 2 มีปริมาณธาตุอาหารโพแทสเซียมสูงที่สุด เท่ากับ
                           -1
                                                                                                      -1
                   22 mg kg รองลงมาได้แก่ ตำรับการทดลองที่ 8 มีปริมาณธาตุอาหารโพแตสเซียม เท่ากับ 21 mg kg  ตำรับการ
                                                                            -1
                   ทดลองที่ 7 มีปริมาณธาตุอาหารโพแทสเซียมน้อยที่สุด เท่ากับ 14 mg kg ตำรับการทดลองที่ 2 ตำรับการทดลองที่ 8
                   และ ตำรับการทดลองที่ 7 มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่นที่ 95%
                          ปี 2562 ก่อนการทดลอง พบว่าทุกตำรับการทดลองมีปริมาณธาตุอาหารอยู่ในระดับต่ำมาก โดยตำรับการ
                                                                          -1
                   ทดลองที่ 2 มีปริมาณธาตุอาหารโพแทสเซียมสูงที่สุด เท่ากับ 20 mg kg รองลงมาได้แก่ ตำรับการทดลองที่ 8 มีปริมาณ
                                                    -1
                   ธาตุอาหารโพแตสเซียม เท่ากับ 18 mg kg  ตำรับการทดลองที่ 7 มีปริมาณธาตุอาหารโพแทสเซียมน้อยที่สุด เท่ากับ 12
                        -1
                   mg kg ตำรับการทดลองที่ 2 ตำรับการทดลองที่ 8 และ ตำรับการทดลองที่ 7 มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
                   ที่ระดับความเชื่อมั่นที่ 95% หลังการทดลอง พบว่าทุกตำรับการทดลองมีปริมาณธาตุอาหารอยู่ในระดับต่ำมาก-ปานกลาง
                                                                                        -1
                   โดยตำรับการทดลองที่ 7 มีปริมาณธาตุอาหารโพแทสเซียมสูงที่สุด เท่ากับ 90 mg kg (ปานกลาง) รองลงมาได้แก่
                                                                            -1
                   ตำรับการทดลองที่ 6 มีปริมาณธาตุอาหารโพแตสเซียม เท่ากับ 76 mg kg  (ปานกลาง) ตำรับการทดลองที่ 3 มีปริมาณ
                                                           -1
                   ธาตุอาหารโพแทสเซียมน้อยที่สุด เท่ากับ 25 mg kg (ต่ำมาก) ตำรับการทดลองที่ 3 และ ตำรับการทดลองที่ 7 มีความ
                   แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่นที่ 95%

                          และปี 2563 ก่อนการทดลอง พบว่าทุกตำรับการทดลองมีปริมาณธาตุอาหารอยู่ในระดับต่ำมาก-ปานกลาง โดย
                                                                                   -1
                   ตำรับการทดลองที่ 7 มีปริมาณธาตุอาหารโพแทสเซียมสูงที่สุด เท่ากับ 78 mg kg (ปานกลาง) รองลงมาได้แก่ ตำรับ
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21