Page 16 - การประเมินคุณภาพดินเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการพื้นที่ ทางการเกษตรที่มีอัตราการชะล้างพังทลายสูงโดยใช้เทคนิคนิวเคลียร์ จังหวัดกาญจนบุรี Assessing soil quality and enhance crop productivity through agriculture management using nuclear techniques in the area of erosion in Kanchanaburi province.

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

10

1.3 สภาพภูมิอากาศของพื้นที่ศึกษา
จากขอมูลของสถานีอุตุนิยมวิทยากาญจนบุรี (ทองผาภูมิ) รายงานวา สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปของ
ตําบลปรังเผล อําเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี อยูภายใตอิทธิพลของมรสุม 2 ชนิด คือ มรสุม
ตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งพัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือปกคลุมในชวงฤดูหนาว ทําใหจังหวัดกาญจนบุรีประสบ

กับสภาวะหนาวเย็นและแหง และมรสุมตะวันตกเฉียงใต ซึ่งพัดปกคลุมในชวงฤดูฝน ทําใหมีฝนและอากาศชุมชื้น
มีคาเฉลี่ยอุณหภูมิตลอดทั้งป โดยเฉพาะชวงฤดูฝนจะอยูในระหวางเดือนพฤษภาคม ถึง เดือนกันยายน และ
เนื่องจากพื้นที่โครงการวิจัย ตั้งอยูในบริเวณพื้นที่เทือกเขาดานตะวันตก สงผลใหมีฝนชุกและมีปริมาณฝนรวม
ตลอดปมากกวา 1,600 มิลลิเมตร โดยเฉพาะบริเวณอําเภอทองผาภูมิและสังขละบุรี มีฝนชุกและมีปริมาณฝนมา
กกวาพื้นที่อื่น ๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งคาเฉลี่ยปริมาณฝนรวมตลอดปปกติอยูระหวาง 1,600-2,000 มิลลิเมตร
(ศูนยภูมิอากาศ กองพัฒนาอุตุนิยมวิทยา, 2563) ขอมูลปริมาณน้ําฝน ในป พ.ศ. 2563 (สํานักงานสถิติแหงชาติ,
2564) พบวา ปริมาณน้ําฝนสะสม เทากับ 1,477.4 มิลลิเมตร จํานวนวันที่ฝนตกตลอดป เทากับ 146 วัน โดย
เดือนที่มีฝนตกเยอะที่สุดคือ เดือนสิงหาคม รองลงมาคือ คือ เดือนกันยายน ตามลําดับ อุณหถูมิในจังหวัด

กาญจนบุรี มีคาเฉลี่ยอยูในชวง 22 ถึง 42 องศาเซลเซียส

ตารางที่ 1 สถิติสภาพภูมิอากาศจังหวัดกาญจนบุรี คาเฉลี่ยมาตรฐาน 30 ป (ขอมูลป พ.ศ. 2524 ถึง 2553)
ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย พ.ค มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. รายป
. .
ปริมาณน้ําฝนเฉลี่ย 5.2 11.4 27.5 75.0 135.3 83.8 102.1 109.0 227.8 209.3 62.7 6.2 1,055.3
(มิลลิเมตร)
อุณหภูมิเฉลี่ย 25.6 27.9 29.9 31.1 29.9 28.9 28.5 28.2 27.9 27.2 26.1 24.7 28.0

(องศาเซลเซียส)
ความชื้นสัมพัทธเฉลี่ย 63 60 59 61 69 72 72 73 77 79 73 65 69
(รอยละ)
อัตราน้ําระเหยเฉลี่ย 140.0 150.4 205.8 215.7 190.4 157.5 160.4 154.0 138.1 122.6 128.0 142.2 1,905.1
(มิลลิเมตร)
ที่มา : สวนอุตุนิยมวิทยาเกษตร สํานักพัฒนาอุตุนิยมวิทยา กรมอุตุนิยมวิทยา (ปรเมศร, 2555)