Page 64 - ผลกระทบจากการเผาตอซังและไม่ไถพรวนต่อสมบัติดินเพื่อ การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บนพื้นที่สูง จังหวัดเชียงใหม่ Effects of Burning and No-tillage on Soil Properties forMaize Production on Upland in Chiang Mai Province.
P. 64

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

                                                                                                           48

                          4.ธาตุอาหารที่สูญเสียจากการชะล้างพังทลายของดิน

                             ในการทดลองปีที่ 3 (พ.ศ.2563) เมื่อนำปริมาณธาตุอาหารพืชในดินและปริมาณตะกอนดินที่
                   สูญเสียไปจากแปลงมาคำนวณหาธาตุอาหารพืชที่สูญเสียจากการชะล้างพังทลายของดิน พบว่าปริมาณ

                   ไนโตรเจนทั้งหมดที่สูญเสียไปมีความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง (p<0.1) โดยพบว่าตำรับการทดลอง

                   ที่ 4 ไม่ไถพรวนดิน ไม่เผาตอซังและปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดินสูญเสียไนโตรเจนน้อยสุดที่ 0.04 กิโลกรัมต่อไร่
                   ขณะที่ตำรับการทดลองที่ 1 ไม่ไถพรวนและเผาตอซัง ตำรับการทดลองที่ 3 ไถพรวนดินและเผาตอซัง และ

                   ตำรับการทดลองที่ 2 ไถพรวนดินสับกลบตอซังไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ โดยมีการสูญเสียไนโตรเจนที่

                   1.27, 1.51 และ 1.73  กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ
                            การสูญเสียโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินพบว่าความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญ

                   (p<0.5) โดยพบว่าตำรับการทดลองที่ 4 ไม่ไถพรวนดิน ไม่เผาตอซังและปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดินสูญเสีย
                   โพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์น้อยสุดที่ 0.01 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งมีความแตกต่างทางสถิติจากตำรับการทดลองที่

                   1 ไม่ไถพรวนและเผาตอซังและตำรับการทดลองที่ 2 ไถพรวนดินสับกลบตอซังสูญเสียโพแทสเซียมที่เป็น

                   ประโยชน์เท่ากันที่ 0.40 กิโลกรัมต่อไร่ และตำรับการทดลองที่ 3 ไถพรวนดินและเผาตอซังสูญเสีย
                   โพแทสเซียมที่ 0.44 กิโลกรัมต่อไร่

                            การสูญเสียแมกนีเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินพบว่าความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง
                   (p<0.1) โดยพบว่าตำรับการทดลองที่ 4 ไม่ไถพรวนดิน ไม่เผาตอซังและปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดินสูญเสีย

                   แมกนีเซียมที่เป็นประโยชน์น้อยสุดโดยน้อยกว่า 0.00 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับการทดลองที่ 1 ไม่ไถพรวนและเผา

                   ตอซัง ตำรับการทดลองที่ 2 ไถพรวนดินสับกลบตอซัง และตำรับการทดลองที่ 3 ไถพรวนดินและเผาตอซัง
                   สูญเสียแมกนีเซียมที่เป็นประโยชน์เท่ากันที่ 0.14 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ

                            การสูญเสียแคลเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินพบว่าความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง

                   (p<0.1) โดยพบว่าตำรับการทดลองที่ 4 ไม่ไถพรวนดิน ไม่เผาตอซังและปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดินสูญเสีย
                   แคลเซียมที่เป็นประโยชน์น้อยสุดที่ 0.04 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับการทดลองที่ 2 ไถพรวนดินสับกลบตอซัง

                   ตำรับการทดลองที่ 3 ไถพรวนดินและเผาตอซัง และตำรับการทดลองที่ 1 ไม่ไถพรวนและเผาตอซัง ไม่มีความ

                   แตกต่างกันทางสถิติโดยสูญเสียแคลเซียมที่เป็นประโยชน์ที่ 1.01, 1.06 และ 1.25 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ
                            การสูญเสียฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินพบว่าความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.5)

                   โดยพบว่าตำรับการทดลองที่ 4 ไม่ไถพรวนดิน ไม่เผาตอซังและปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดินสูญเสียฟอสฟอรัสที่เป็น
                   ประโยชน์น้อยสุดโดยน้อยกว่า 0.00 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับการทดลองที่ 1 ไม่ไถพรวนและเผาตอซัง ตำรับการ

                   ทดลองที่ 3 ไถพรวนดินและเผาตอซัง และตำรับการทดลองที่ 2 ไถพรวนดินสับกลบตอซังสูญเสียฟอสฟอรัสที่

                   เป็นประโยชน์ที่ 0.09, 0.11 และ 0.14 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ ดังตารางที่ 30


                          5.ผลผลิตและองค์ประกอบผลผลิตของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

                            จากการศึกษาผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์นครสวรรค์ 3 ที่ปลูกในปี 2563 พบว่าผลผลิตรวม

                   เปลือกมีความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.5) โดยตำรับการทดลองที่ 1 ไม่ไถพรวนและเผาตอซัง
                   มีผลผลิตรวมเปลือกเฉลี่ยสูงสุดที่ 1,459.01 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับการทดลองที่ 2 ไถพรวนดินสับกลบตอซัง
   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69