Page 117 - ศึกษาผลกระทบจากการเผาเศษวัสดุทางเกษตรต่อการปลูกพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่แจ่มและศึกษาการชะล้างพังทลายของดินด้วยแบบจำลองการสูญเสียดินสากล
P. 117

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

                                                                                                           97


                   เปลือกที่ 1,507.50 และ 1,504.65 กิโลกรัมต่อไร่ ตามล าดับ ต ารับการทดลองที่ 4 ไม่ไถพรวนดิน ไม่เผาตอ
                   ซัง ให้ผลผลิตปอกเปลือกน้อยสุด ที่ 1,473.36 กิโลกรัมต่อไร่

                            เมื่อพิจารณาน้ าหนักเปลือกและซังข้าวโพดพบว่า มีความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยส าคัญยิ่ง

                   (p<0.1) โดยต ารับการทดลองที่ 3 ไถพรวนดินและเผาตอซัง มีน้ าหนักเปลือกและซังข้าวโพดสูงสุดที่ 343.60
                   กิโลกรัมต่อไร่ ต ารับการทดลองที่ 4 ไม่ไถพรวนดิน ไม่เผาตอซังและปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดิน และต ารับการ
                   ทดลองที่ 2 ไถพรวนดินสับกลบตอซัง มีน้ าหนักเปลือกและซังข้าวโพดที่ 328.80 และ 321.69 กิโลกรัมต่อไร่
                   โดยต ารับการทดลองที่ 1 ไม่ไถพรวนและเผาตอซัง มีน้ าหนักเปลือกและซังข้าวโพดน้อยสุดที่ 302.92 กิโลกรัม

                   ต่อไร่ ดังตารางที่ 56

                            เมื่อพิจารณาน้ าหนักเมล็ดข้าวโพด พบว่าไม่มีความแตกต่างทางสถิติ โดยต ารับการทดลองที่ 3 ไถ
                   พรวนดินและเผาตอซัง มีน้ าหนักเมล็ดสูงสุดที่ 1,380.07 กิโลกรัมต่อไร่ ต ารับการทดลองที่ 4 ไม่ไถพรวนดิน
                   ไม่เผาตอซังและปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดิน และต ารับการทดลองที่ 2 ไถพรวนดินสับกลบตอซัง มีน้ าหนักเมล็ดที่
                   1,336.27 และ 1,321.19 กิโลกรัมต่อไร่ และต ารับการทดลองที่ 1 ไม่ไถพรวนและเผาตอซัง มีน้ าหนักเมล็ด

                   น้อยสุดที่ 1,319.20 กิโลกรัมต่อไร่

                   ตารางที่ 56 ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2561
                         Treatment            Ear weight           Ear without     Husk and cob   Grain weight

                                                (kg/rai)        husk weight (kg/rai)  weight (kg/rai)   (kg/rai)
                     T1 ไม่ไถพรวนและเผาตอซัง   1,622.12   b         1,507.50          302.92  b          1,319.20
                     T2 ไถพรวนดินสับกลบตอซัง  1,642.89   ab         1,504.65          321.69  ab         1,321.19

                     T3 ไถพรวนดินและเผาตอซัง  1,723.67   a          1,558.69          343.60  a          1,380.07
                     T4 ไม่ไถพรวนดิน ไม่เผาตอซัง
                         และปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดิน  1,665.07   ab    1,473.36          328.80  ab         1,336.27
                     F-test                            *                      ns         **                   ns
                     C.V. (%)                       2.59                   2.98        3.21                 2.75



                            จากการศึกษาขนาดฝักข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์นครสวรรค์ 3 ที่ปลูกในปี 2561 พบว่าความยาวและ
                   ความกว้างฝักไม่มีความแตกต่างทางสถิติ โดยต ารับการทดลองที่ 1 ไม่ไถพรวนและเผาตอซัง มีความยาวฝัก
                   เฉลี่ยสูงสุดที่ 17.01 เซนติเมตร ต ารับการทดลองที่ 3 ไถพรวนดินและเผาตอซัง และต ารับการทดลองที่ 2 ไถ

                   พรวนดินสับกลบตอซัง มีความยาวฝักเฉลี่ยที่ 16.98 และ 16.60 เซนติเมตร ส าหรับความกว้างฝักพบว่าต ารับ
                   การทดลองที่ 4 ไม่ไถพรวนดิน ไม่เผาตอซังและปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดิน มีความกว้างเฉลี่ยฝักสูงสุดที่ 4.42
                   เซนติเมตร ต ารับการทดลองที่ 3 ไถพรวนดินและเผาตอซัง มีความกว้างฝักเฉลี่ยที่ 4.37 เซนติเมตร ต ารับการ

                   ทดลองที่ 1 ไม่ไถพรวนและเผาตอซัง และต ารับการทดลองที่ 2 ไถพรวนดินสับกลบตอซัง มีความกว้างฝัก
                   เฉลี่ยเท่ากันที่ 4.34 เซนติเมตร ดังตารางที่ 14

                            เมื่อพิจารณาจ านวนแถวต่อฝัก ไม่พบความแตกต่างทางสถิติ โดยต ารับการทดลองที่ 4 ไม่ไถพรวน
                   ดิน ไม่เผาตอซังและปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดิน มีจ านวนแถวต่อฝักเฉลี่ยสูงสุดที่ 14.13 แถวต่อฝัก ต ารับการ
                   ทดลองที่ 2 ไถพรวนดินสับกลบตอซัง และต ารับการทดลองที่ 3 ไถพรวนดินและเผาตอซัง มีจ านวนแถวต่อฝัก

                   เฉลี่ยที่ 13.87 และ 13.77 แถวต่อฝัก ตามล าดับ ต ารับการทดลองที่ 1 ไม่ไถพรวนและเผาตอซัง มีจ านวน
                   แถวต่อฝักเฉลี่ยน้อยสุดที่ 13.4 แถวต่อฝัก ดังตารางที่ 14    เมื่อพิจารณาจ านวนเมล็ดต่อฝัก พบว่ามีความ
   112   113   114   115   116   117   118   119   120   121   122