Page 21 - ศึกษาอัตราส่วนผสมระหว่างปูนมาร์ล กรดซิลิคอนและถ่านชีวภาพเพื่อปั้นเม็ดเพื่อใช้ปรับปรุงบำรุงดินในพื้นที่ดินเปรี้ยวจัด Study the mixture ratio between marl, silicon and biochar to form pellets for increasing plant growth in acid sulfate soils
P. 21

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน




                        2.5 ปริมาณแคลเซียมที่เป็นประโยชน์ในดิน (มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม)


                                ก่อนดำเนินการทดลองปริมาณแคลเซียมที่เป็นประโยชน์ในดิน  850  มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมอยู่ใน

               ระดับต่ำ  หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวโพดหวาน  พบว่า  ปริมาณแคลเซียมในดินมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นทุก
               ตำรับการทดลองและอยู่ในระดับสูงมาก  2168.25-2667.75  มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม  (ตารางที่  4)  โดยตำรับ

               ควบคุมให้  ปริมาณแคลเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินต่ำสุด  2168.25  มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม  และการใช้ปูนมาร์ล

               ผสมกรดซิลิคอนและถ่านชีวภาพปั้นเม็ดทุกอัตราส่วนให้ปริมาณแคลเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินสูง  เนื่องจาก
               การใส่ปูนมาร์ลและการใส่ถ่านชีวภาพทุกอัตราช่วยเพิ่มปริมาณแคลเซียมที่เป็นประโยชน์ในดิน  ถ่านชีวภาพ

               และปูนมาร์ลมีองค์ประกอบของแคลเซียมที่สูง  (Mastoet  al.,  2013)  นอกจากนี้  การใส่ถ่านชีวภาพจะช่วย
               เพิ่มปริมาณความสามารถในการแลกเปลี่ยนแคตไอออนในดิน (Brady and Weil, 2008; Liang et al., 2006)

               และคุณสมบัติของถ่านชีวภาพซึ่งมีความพรุนรวมสูง  จะช่วยดูดซับธาตุอาหารได้ดี  ซึ่งสอดคล้องกับการทดลอง

               การใส่ถ่านชีวภาพร่วมกับการให้ปุ๋ยเคมีในการปลูกข้าวไร่มีผลทำให้ดินที่ระดับความลึก  0-15  เซนติเมตร  ที่
               ระยะเก็บเกี่ยวผลผลิตมีปริมาณแคลเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินสูงกว่าการใช้ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว  (จิตนิภา,

               2558)
                       2.6 ปริมาณแมกนีเซียมในดินที่เป็นประโยชน์ (มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม)



                                  ก่อนดำเนินการทดลองปริมาณแมกนีเซียมที่เป็นประโยชน์ในดิน 460 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมซึ่ง
              อยู่ในระดับสูง  หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวโพดหวาน  พบว่า  ปริมาณแมกนีเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินมีการ

              เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นทุกตำรับการทดลองและอยู่ในระดับสูง  มีค่าอยู่ระหว่าง  737.25-747.25  มิลลิกรัมต่อ

              กิโลกรัม  (ตารางที่  4)  การใส่ถ่านชีวภาพช่วยเพิ่มปริมาณแมกนีเซียมที่ที่เป็นประโยชน์ในดินเนื่องจาก  ถ่าน
              ชีวภาพมีองค์ประกอบของแมกนีเซียมที่สูงและการใส่ถ่านชีวภาพจะช่วยเพิ่มปริมาณความสามารถในการ

              แลกเปลี่ยนประจุบวกในดินสูง (Brady and Weil, 2008; Liang et al., 2006) อีกทั้งคุณสมบัติของถ่านชีวภาพ
              ซึ่งมีความพรุนรวมสูง จึงช่วยดูดซับธาตุอาหารได้ดี และนอกจากนั้นแล้วการใส่ปูนมาร์ลช่วยทำให้ pH ในดินเพิ่ม

              สูงขึ้น ทำให้แมกนีเซียมละลายออกมาเป็นประโยชน์ต่อพืชอีกด้วย




















                                                           21
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26