Page 27 - การปรับปรุงบำรุงดินโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดต่างๆ เพื่อปลูกข้าวโพดหวานอินทรีย์
P. 27
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
สรุปผลการทดลอง
การปรับปรุงบำรุงดินโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดต่างๆ เพื่อผลิตข้าวโพดหวานอินทรีย์ ดำเนินการ
ทดลองในพื้นที่แปลงเกษตรกร ตำบลสระขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว ปีงบประมาณ 2562-2563 สรุปผล
การทดลองได้ ดังนี้
1. การเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวโพดหวาน พบว่ามีการเจริญเติบโตทางความสูงใกล้เคียง
กัน มีค่าระหว่าง 156.1-169.9 เซนติเมตร โดยวิธีการที่ 7 การใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับปลูกปอเทืองแซม
ระหว่างแถว วิธีการที่ 2 การใช้ปุ๋ยมูลโค และวิธีการที่ 5 การใช้ปุ๋ยมูลโคร่วมกับปลูกปอเทืองแซมระหว่างแถว มี
การเจริญเติบโตทางความสูงเฉลี่ยใกล้เคียงกันคือ 169.6 เซนติเมตร และวิธีการที่ 8 การใช้ปุ๋ยพืชสดร่วมกับปลูก
ปอเทืองแซมระหว่างแถว มีการเจริญเติบโตทางความสูงน้อยสุด 156.1 เซนติเมตร จะเห็นว่าการใช้ปุ๋ยอินทรีย์
ประเภทปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก และปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง จะมีการเจริญเติบโตดีกว่าการใช้ปุ๋ยพืชสด
สำหรับผลผลิต พบว่าวิธีการที่ 4 การใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงสุด 2,642.4
กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนวิธีการที่ 8 การใช้ปุ๋ยพืชสดร่วมกับการปลูกปอเทืองแซมระหว่างแถวแล้วตัดคลุม ให้ผลผลิต
เฉลี่ยต่ำสุด 1,698.7 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนการใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพียงอย่างเดียวให้ผลผลิตข้าวโพดหวาน
ใกล้เคียงกัน 2,251.5-2,290.5 กิโลกรัมต่อไร่ และเมื่อใช้ร่วมกับการปลูกปอเทืองแซมระหว่างแถวแล้วตัดคลุม
พบว่ามีแนวโน้มในการให้ผลผลิตน้อยกว่า
2. ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ พบว่าวิธีการที่ 2 การใช้ปุ๋ยคอกจากมูลโค มีรายได้สุทธิมากที่สุด
24,213.6 บาทต่อไร่ รองลงมาคือวิธีการที่ 1 วิธีเกษตรกร ซึ่งใช้ปุ๋ยหมัก 2 ตันต่อไร่ วิธีการที่ 5 การใช้ปุ๋ยมูลโค
ร่วมกับปลูกปอเทืองแซมระหว่างแถว และวิธีการที่ 8 การใช้ปุ๋ยพืชสดร่วมกับปลูกปอเทืองแซมระหว่างแถว มี
รายได้สุทธิ 20,031.5 18,318.0 และ 15,685.5 บาทต่อไร่ ตามลำดับ ส่วนวิธีการที่ 3 และ 4 การใช้ปุ๋ยหมัก
และการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงเพียงอย่างเดียว มีรายได้สุทธิใกล้เคียงกันคือ 14,512.5 และ 13,448.6 บาทต่อ
ไร่ ตามลำดับ และเมื่อใช้ปุ๋ยหมักและใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับปลูกปอเทืองแซมระหว่างแถว มีรายได้สุทธิ
เหลือน้อยกว่าวิธีการอื่น มีรายได้สุทธิคงเหลือ 8,507.0 และ 5,427.0 บาทต่อไร่ จะเห็นว่าการใช้ปุ๋ยอินทรีย์
คุณภาพสูงแม้จะให้ผลผลิตที่มากกว่าแต่ก็มีต้นทุนการผลิตที่สูงทำให้เกษตรกรมีรายได้สุทธิคงเหลือน้อยกว่าการ
ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดอื่น สำหรับปุ๋ยคอกการใช้ในอัตราที่น้อยกว่าปุ๋ยหมักและราคาที่ต่ำกว่า ทำให้เกษตรกรได้รับ
ผลตอบแทนมากกว่าการใช้ปุ๋ยหมัก
3. การเปลี่ยนแปลงสมบัติของดิน พบว่ามีปริมาณอินทรียวัตถุมีการเปลี่ยนแปลงลดลงเล็กน้อย
ปริมาณฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และแมกนีเซียม มีการสะสมในดินเพิ่มสูงขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทดลอง ปริมาณ
แคลเซียม มีค่าเฉลี่ยลดลงจากก่อนการทดลอง และความเป็นกรดเป็นด่างของดินจาก 7.1 มีการเปลี่ยนแปลง
ลดลงเล็กน้อยเหลือเฉลี่ย 6.8 เมื่อสิ้นสุดการทดลอง
ประโยชน์ที่ได้รับ
1. แนวทางการปรับปรุงบำรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์ที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มความอุดมสมบรูณ์ของดิน
และผลผลิตข้าวโพดหวานระบบอินทรีย์ ที่เกษตรกรสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่การเกษตรเพื่อให้ได้ผล
ผลิตที่ดี มีความปลอดภัย มีรายได้เพิ่มจากมูลค่าของผลผลิตที่เพิ่มขึ้น และเกิดความยั่งยืนในการทำเกษตร
อินทรีย์ และแนวทางการส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ให้เหมาะสมและเพื่อให้เกิดผลดีในระยะยาว
2. ผลการวิจัยการปรับปรุงดินเพื่อการปลูกพืชในระบบอินทรีย์โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีในพื้นที่ จะ
ช่วยทำให้เกษตรกรบางส่วนที่ยังคงทำการเกษตรโดยใช้ปุ๋ยเคมี มองเห็นประโยชน์และความสำคัญของปุ๋ย
อินทรีย์ และให้ความสนใจในการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการผลิตได้อย่างมากใน
สภาวะที่ปุ๋ยเคมีมีราคาแพง และความเป็นไปได้ในการผลิตพืชอินทรีย์ที่มีความปลอดภัยทั้งผลผลิตที่ได้และ
สุขภาพที่ดีของเกษตรกรเอง