Page 124 - สถานภาพการชะล้างพังทลายของดินในประเทศไทย Status of Soil Erosion in Thailand
P. 124
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
114
ตารางที่ 4.2 มาตรการอนุรักษ์วิธีกล โดยคันดินมาตรฐานของกรมพัฒนาที่ดิน
มำตรกำรอนุรักษ์วิธีกล วิธีกำรปฏิบัติ
แบบที่ 1 คันดินเบนน้ า ใช้เพื่อป้องกันน้ าไหลบ่าลงสู่พื้นที่เกษตรกรรม เหมาะกับพื้นที่ที่มีความลาดเท
ไม่เกิน 15 เปอร์เซ็นต์ มีปริมาตรดินขุด-ถม ประมาณ 2.4 ลูกบาศก์เมตรต่อเมตร
แบบที่ 2 คันดินเก็บกักน้ า ควรใช้กับพื้นที่ดินร่วนปนทราย มีความลาดเทประมาณ 3-15 เปอร์เซ็นต์
ปริมาตรดิน ขุด-ถม ประมาณ 1.2 ลูกบาศก์เมตรต่อเมตร
แบบที่ 3 เป็นคันดินฐานกว้าง ควรใช้กับพื้นที่ดินร่วนปนทราย มีความลาดเทไม่เกิน 8 เปอร์เซ็นต์
ปริมาตรดิน ขุด-ถม ประมาณ 1.5 ลูกบาศก์เมตรต่อเมตร
แบบที่ 4 เป็นคันดินฐานแคบ ควรใช้กับพื้นที่ดินร่วนปนทรายที่มีความลาดเทประมาณ 3-15 เปอร์เซ็นต์
ปริมาตรดินขุด-ถม ประมาณ 0.6 ลูกบาศก์เมตรต่อเมตร
แบบที่ 5 คันคูรับน้ าขอบเขา ควรใช้กับพื้นที่ที่มีความลาดเทไม่เกิน 35 เปอร์เซ็นต์
ปริมาตรดินขุด-ถม ประมาณ 0.3 ลูกบาศก์เมตรต่อเมตร
แบบที่ 6 คันคูรับน้ าขอบเขา ควรใช้กับพื้นที่ๆ มีความลาดเทมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์
ปริมาตรดินขุด-ถม ประมาณ 0.2 ลูกบาศก์เมตรต่อเมตร
2) การปรับรูปแปลงนา ซึ่งได้ก าหนดลักษณะของการปรับปรุงแปลงนาในเขตหมู่บ้านพัฒนาที่ดิน
เพื่อให้น ามาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพมี 3 ลักษณะ ดังนี้
(1) การปรับรูปแปลงนาลักษณะที่ 1 เป็นคันดินที่สร้างขึ้นโดยให้ระดับของคันดินอยู่ระดับเดียวกัน
เน้นให้มีการปลูกข้าวแบบเดิม แต่ก าหนดให้มีการปรับโครงสร้างให้มีคันดินเพิ่มขึ้น วัตถุประสงค์เพื่อเก็บกักน้ า
ที่ไหลบ่ามาไว้เป็นช่วงๆ มีลักษณะเหมือนคันนา บนคันนาสามารถปลูกพืชชนิดต่างๆ ได้ ความสูงและความกว้าง
ของคันนาหรือคันดินจะผันแปรไปตามลักษณะดิน พื้นที่ดินและลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดิน ปริมาณน้ าฝนที่ตก
ลงมาหรือปริมาณน้ าที่จะเก็บกักหรือระบายออก
ภาพที่ 4.4 แบบการปรับรูปแปลงนาลักษณะที่ 1
ภาพที่ 4.5 สภาพพื้นที่ที่มีการปรับรูปแปลงนาลักษณะที่ 1